เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม นายสรศักดิ์ รณะนันทน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ พร้อมด้วย นาวาเอกกฤษณ์ เคลือบมาศ รองผอ.ศรชล.จังหวัดภูเก็ต ,นาวาเอกพิเชษฐ์ ซองตัน ผอ.กองสารนิเทศ ศรชล.ภาค3 ,นายอดูลย์ ระลึกมูล เจ้าพนักงานตรวจเรือ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนธิกำลังปฏิบัติการเก็บกวาดทำความสะอาดคราบน้ำมันสีดำที่อยู่บนชายหาดในพื้นที่หาดไม้ขาว หาดในทอน หาดในยาง หาดลายัน อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
นายสรศักดิ์ รณะนันทน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ให้สัมภาษณ์ว่า จากการพบคราบน้ำมันสีดำเป็นก้อนและแบนขนาดแตกต่างกันไป ลอยมาติดบริเวณหาดในยาง หาดไม้ขาว หาดในทอน และหาดลายัน อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต โดยพบและเก็บกวาดคราบน้ำมันตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.แต่ยังไม่หมด จึงสนธิกำลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็น 4 ชุด ปฏิบัติการเก็บกวาดคราบน้ำมันสีดำและจะทำจนเสร็จสิ้น เพราะปริมาณคราบน้ำมันที่เข้ามาบนชายหาดจำนวนค่อนข้างมาก พร้อมกันนี้ อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ได้แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำในบริเวณที่พบคราบน้ำมัน ซึ่งอาจจะยังลอยอยู่ในทะเลหรือกระจายอยู่ตามชายหาด
ด้าน นาวาเอกกฤษณ์ เคลือบมาศ รองผอ.ศรชล.จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า คราบน้ำมันดังกล่าวต้องตรวจสอบว่าเป็นน้ำมันประเภทใด น้ำมันเตา หรือน้ำมันเครื่อง โดยให้เจ้าท่าภูเก็ตตรวจพิสูจน์ย้อนหลัง 7 วัน เรือลำใดที่วิ่งผ่านเส้นทางเพื่อตรวจสอบและชี้เป้า ซึ่งคราบน้ำมันที่พบเป็นน้ำมันดีเซล และคราบน้ำมันนี้ยังพบที่โคกกลอยจังหวัดพังงาด้วย คาดว่า เรือแล่นจากพังงาและเข้ามาภูเก็ต หากตรวจจับได้ว่าเป็นเรือลำใดจะเรีบกเข้ามาพบตามกฎหมาย และจะเข้าแจ้งความที่ สภ.สาคู เพื่อติดตามผู้กระทำความผิดดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่ นาวาเอก พิเชษฐ์ ซองตัน ผอ.กองสารนิเทศ ศรชล.ภาค 3 กล่าวว่า การปฏิบัติการเก็บคราบน้ำมันบนชายหาด4 หาด ได้แบ่งชุดปฏิบัติการเป็น 4 ชุดเริ่มเก็บคราบน้ำมันสีดำจากท้ายรันเวย์มาจนถึงหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถไปจนสุดหาดในยาง หาดลายัน หาดในทอน งานเร่งด่วนคือ เอาคราบน้ำมันสีดำออกจากชายหาด ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรือต่างๆที่แล่นผ่านบริเวณนี้ที่อาจจะเป็นต้นตอ ของคราบน้ำมันสีดำดังกล่าวและนักวิชาการต้องนำตัวอย่างคราบน้ำมันสีดำไปตรวจสอบวิจัยว่าเกิดจากอะไรน้ำมันประเภทใด ซึ่งผลกระทบทางกายภาพตอนนี้ พบว่า คราบน้ำมันสีดำติดตามเท้าตามต้นไม้ชายหาด ส่วนผลกระทบทางเคมีชีวะต้องรอผลหลักจากนักวิชาการและขอให้ประชาสัมพันธ์ถึงนักท่องเที่ยวทราบว่าคราบน้ำมันพบตั้งแต่ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ผ่านมาทุกหาด จนมาถึงหาดป่าตองจังหวัดภูเก็ต ที่ได้รับผลกระทบ ขอให้นักท่องเที่ยว ระมัดระวังการเดินชายหาด เพราะถ้าติดมือติดเท้าแล้วล้างออกยาก
นายอดูลย์ ระลึกมูล เจ้าพนักงานตรวจเรือ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต กล่าวว่า ถ้าเป็นเรือที่กลุ่มน้ำมันนี้จะตรวจดูชนิดของน้ำมันจะโฟกัสไปว่าเรือประเภทไหนที่น้ำมันหรือเป็นส่วนใดของเรือจะเอามาประกอบการตรวจสอบและเฝ้าระวังและต้องดูย้อนหลังเรือที่วิ่งผ่านเส้นทางนี้ ในเรื่องกฎหมายถ้าทิ้งสิ่งปฏิกูลหรือผลิตภัณฑ์น้ำมัน ในเรื่องของกฎหมายถ้าทิ้งสิ่งปฏิกูลหรือ product น้ำมัน กฎหมายพ.ร.บเดินเรือในน่านน้ำไทยเป็นมาตรา 119 ทวิ มีโทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับและ จะมีในส่วนที่ต้องชดเชยการทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน ตอนบน รายงานว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงแรมอังสนาลากูน่าภูเก็ต เมื่อ 4 สิงหาคม ว่าพบเต่าทะเลเกยตื้นมีชีวิตติดคราบน้ำมันบริเวณชายหาดหน้าโรงแรมอังสนาลากูน่าตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบนได้เข้าช่วยเหลือและตรวจสอบเต่าเกยตื้นดังกล่าว พบว่า เป็นเต่าตนุอยู่ในช่วงวัยเด็กความยาว 12 ซม. ความกว้าง 10 เซนติเมตรน้ำหนัก 0.1 กิโลกรัมมีสภาพอ่อนแรงมากความสมบูรณ์ของร่างกายอยู่ในระดับปกติ ภายนอกพบคราบน้ำมันปกคลุมทั้งร่างกายรวมถึงในช่องปากจึงได้เคลื่อนย้ายมายังศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร โดยทำการขจัดคราบน้ำมันเพื่อปกคลุมทั่วร่างกายและในช่องปากออกเบื้องต้นรวมทั้งทำการตรวจวินิจฉัยเพื่อพิจารณา และรักษาต่อไป
ข่าว/ภาพ : อชัถยา ชื่นนิรันดร์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดภูเก็ต
