พบอู่เถื่อนกลางเมืองโคราชจุดถอดถังก๊าซ”ชินบุตรทัวร์”ทิ้งไว้เกลื่อนไร้เงาเจ้าของ

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังอู่กังการช่าง ในพื้นที่ ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา สถานที่รถบัสของบริษัทชินบุตรทัวร์ทั้ง 5 คัน มาจอดเพื่อถอดถังก๊าซ CNG ออก ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา เข้าตรวจสอบและระงับได้ทันก่อนที่จะทำการรื้อถังก๊าซออก ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ขนส่งฯ ได้นำรถบัสทั้ง 5 คันเข้าตรวจสภาพที่สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ตุลาคม

จากการลงพื้นที่อู่ดังกล่าว พบว่าทางเข้าอู่ไม่มีการติดป้ายชื่ออู่ และอยู่ลึกจากถนนใหญ่เข้าไปในป่ารกร้าง ลักษณะโครงสร้างอู่ เป็นเหล็กมีหลังคายกสูง ภายในพบรถบัสจำนวน 2 คันถูกจอดทิ้งไว้ ไม่พบคนอยู่ในอู่แม้แต่คนเดียว นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าอู่พบถังก๊าซ CNG ถูกวางทิ้งไว้จำนวนทั้งหมด 6 ถัง จากการตรวจสอบเอกสารที่ติดอยู่บริเวณถังพบว่า 3 ใน 6 ถัง ระบุทะเบียนรถในเอกสารเอาไว้ว่า 30-0411 สิงห์บุรี ตามเอกสารถูกระบุว่า นางปาณิสรา  ชินบุตร เป็นเจ้าของรถ ซึ่งเป็น 1 ในรถทั้ง 5 คัน ที่มาลักลอบถอดถังก๊าซออกก่อนที่จะนำไปตรวจสภาพตามกำหนดการเดิมที่จังหวัดลพบุรี ส่วนอีก 3 ถังที่เหลือไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามาจากรถคันใด เนื่องจากเอกสารถูกขูดทำลายทำให้ไม่เห็นรายละเอียดต่างๆ

นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบยังพบเศษเหล็กที่มีลักษณะเหมือนคานสำหรับเอาไว้ใช้ล็อคถังก๊าซและสายรัดถังก๊าซกระจัดกระจายอยู่ในบริเวณดังกล่าว ใกล้กันกับจุดที่ถังก๊าซได้ถูกวางทิ้งเอาไว้ตรวจพบเบาะรถสีแดงลายดอกไม้ ซึ่งมีลักษณะตรงกับ 1 ในรถทั้ง 5 คัน ใกล้กันยังพบเบาะรถอีก 1 คู่ที่ถูกถอดวางทิ้งไว้เปรียบเสมือนหลักฐานที่ยืนยันว่ารถทั้ง 5 คันมายังอู่แห่งนี้ ด้านหลังของเบาะ 1 คู่ที่พบเจอมีข้อความด้านหลังที่ระบุว่า “ชินบุตรทัวร์” สันนิษฐานว่าเบาะที่พบเป็นเบาะบริเวณห้องโถงชั้นล่างของตัวรถทัวร์ ส่วนสาเหตุที่ถอดออกนั้นคงเป็นเพราะว่าต้องการที่จะนำถังก๊าซออกจากตัวรถ

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังเทศบาลตำบลโคกกรวดซึ่งรับผิดชอบพื้นที่บริเวณที่อู่รถตั้งอยู่ เพื่อไปตรวจสอบการยื่นจดทะเบียนและการเสียภาษีว่า อู่ดังกล่าวได้มีการยื่นจดทะเบียนประกอบกิจการถูกต้องหรือไม่ ในระหว่างพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ของเทศบาลก็ได้มีการพยายามติดต่อไปยังเจ้าของอู่แล้ว แต่ปรากฏว่าเจ้าของไม่อยู่ที่บ้าน ทางเทศบาลตำบลโคกกรวด จึงได้ค้นข้อมูลพบว่า อู่ดังกล่าว มีชื่อนายจีราวัฒน์ จารุรัตน์ธันญา เป็นเจ้าของ โดยไม่ได้ขออนุญาตเปิดเป็นอู่แต่อย่างใด

นายสมบูรณ์  บัวบูชา รองนายกเทศมนตรีตำบลโคกกรวด เปิดเผยว่า อู่รถดังกล่าวได้มีการยื่นขออนุญาตก่อสร้างเมื่อปี 2556 และมายื่นขอบ้านเลขที่ในปี 2557 โดยขออนุญาตใช้เป็นโรงจอดรถมีการเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นประจำทุกปี ปีละ 1,160 บาท ในลักษณะบุคคลธรรมดา ไม่ได้เสียภาษีหรือยืนขอจดทะเบียนในการประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข ซึ่งถือว่ามีความผิด หลังจากนี้คงต้องแจ้งไปยังเจ้าของอู่ให้มายื่นจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย

ด้านภัคพล  ยิ้มดี นายช่างโยธาเทศบาลตำบลโคกกรวด กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ที่ใช้เป็นอู่รถนั้น ก่อนหน้าปี 2556 ที่จะมีการแจ้งขอจดทะเบียน ทางเทศบาลฯ ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบก่อนหน้านี้แล้ว พบว่าพื้นที่ดังกล่าวถูกเทปูน ตนจึงได้เข้าไปพร้อมกับแนะนำให้ทางเจ้าของอู่ไปยื่นขอจดทะเบียนให้ถูกต้องว่า ต้องการจะก่อสร้างอะไร ทางเจ้าของอู่ก็ให้ความร่วมมือโดยเขียนแบบมาแจ้งจดทะเบียนว่าพื้นที่ดังกล่าวใช้เป็นโรงจอดรถ ต่อมาตนก็ได้ลงพื้นที่ไปตรวจดูอยู่เป็นระยะพบว่ามีรถทัวร์มาจอดทิ้งไว้เป็นประจำ ส่วนใหญ่เป็นรถทัวร์ที่ประสบอุบัติเหตุมาจากที่อื่น เพื่อจอดพักไว้รอดำเนินการบางอย่าง มีการรื้ออะไหล่ที่พังแล้วออก และนำรถออกจากอู่ไปจากการตรวจสอบอู่ดังกล่าวไม่ได้มีการประกอบรถขึ้นมาใหม่ รวมไปถึงการติดตั้งก๊าซรถยนต์ กรณีที่เป็นข่าวตนก็เพิ่งมาทราบหลังจากเป็นข่าวไปแล้ว ว่า อู่ดังกล่าวนั้นรับรื้อถอนการติดตั้งถังก๊าซรถยนต์ด้วย

Message us