
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ร่วมกิจกกรรมผู้ว่าฯสัญจร ประชุมติดตามปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานของสำนักงานเขตบางนา โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร นายฉัตรชัย หมอดี สก.เขตบางนา น.ส.โศรยา วัธชนะ ผอ.เขตบางนา พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตบางนา สถานีตำรวจนครบาลบางนา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรม ณ สำนักงานเขตบางนา
นายชัชชาติ กล่าวว่า เขตบางนามีขนาดพื้นที่ 18.789 ตร.กม. ซึ่งเป็นเขตมีความเข้มแข็งมาก ปัญหาหลักอันดับต้น ๆ คือน้ำท่วม สาเหตุเพราะว่าปัญหาการก่อสร้างโครงการอุโมงค์ระบายน้ำบึงหนองบอน บริเวณสะพานข้ามคลองเคล็ด ถนนอุดมสุข ที่เกิดการทรุดตัวทั้งสองฝั่งถนน ทำให้กระบวนการระบายน้ำไม่สามารถทำให้สมบูรณ์ได้ ตอนนี้มีแนวคิดที่จะพัฒนาหลายจุดเพราะมีจุดอ่อนหลายพื้นที่ เช่น คลองบางนา ต้องมีการขุดลอกตลอดเส้นทางเพื่อให้น้ำระบายดีขึ้น จุดอ่อนต่าง ๆ เช่น ซอยลาซาล ซอยแบริ่ง ซอยในเส้นถนนเทพรัตน และถนนศรีนครินทร์ ช่วงวัดศรีเอี่ยม ต้องมีการขุดลอกคูคลองท่อระบายน้ำ ซึ่งต้องทำตลอดไปถึงปีหน้า

สำหรับ เรื่องหาบเร่แผงลอยเขตบางนาทำได้ค่อนข้างดี มีการปรับปรุงหาบเร่แผงลอยบริเวณถนนอุดมสุข และมีบริเวณหน้าเซ็นทรัลและหน้าบิ๊กซี ซึ่งมีการจัดระเบียบที่ดีขึ้น ในส่วนของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร มี 7 โรงเรียน มีโรงเรียนขนาดใหญ่ที่สุดคือโรงเรียนศรีเอี่ยมอนุสรณ์ ซึ่งจากการคุยปัญหาของโรงเรียนที่พบคือเรื่อง ห้องน้ำ คอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจมีปัญหาอยู่บ้าง และได้สั่งการให้แก้ไขให้หมด และเตรียมจัดคอมพิวเตอร์ชุดใหม่ให้กับทุกโรงเรียน รวมทั้งให้ฝ่ายธุรการโรงเรียนเข้ามาดูแลด้วย
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่เขตบางนามีการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ 14 แห่ง และมีแพลนท์ปูน 8 แห่ง ได้เน้นเรื่องการกำกับดูแลตามมาตรการป้องกันฝุ่น PM2.5 และความสะอาดเรียบร้อยของพื้นที่ ซึ่งเขตบางนาดำเนินการได้ดีมาก ในแง่ของ Traffy Fondue มีคนแจ้งเหตุมาประมาณ 4,000 เรื่อง มีเรื่องค้างเพียง 200 เรื่อง ได้รับคำชมค่อนข้างดี มีการตอบสนองค่อนข้างเร็ว เป็นรูปแบบของการทำงานที่ตอบสนองประชาชนได้ค่อนข้างดี ขอชมเชย ผอ.เขต และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่สำคัญ เขตบางนามีพื้นที่ประมาณ 94 ไร่ ตรงนี้เป็นจุดที่ติดกับคลองบางอ้อ เป็นคลองหนึ่งที่คลองส่งน้ำจากบึงหนองบอนจะมาออก ในขณะเดียวกันก็มีโรงพยาบาลบางนากรุงเทพมหานคร ที่มีโครงการจะขยายเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ซึ่งได้รับงบประมาณแล้ว ตรงนี้จะมีโรงพยาบาล อาคารสำนักงานเขตใหม่ และอาจจะมีสถานีดับเพลิงและกูัภัยบางนา และมีศูนย์ของสำนักพัฒนาสังคม ต่อไปตรงนี้จะเป็น Complex ใหญ่ เพราะมีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ อนาคตอาจจะพิจารณาทางเลือกอื่นด้วย เช่น ที่อยู่อาศัยเพิ่มเติมของประชาชนที่มีรายได้น้อย ซึ่งต้องทำ Master Plan ทั้งหมดของเขตบางนาให้ดีขึ้น
ผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า ด้านพื้นที่สีเขียวทางเขตได้ปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 2,000 ต้น จากเป้าหมาย 10,000 ต้น มีส่วนหย่อม 2 แห่ง ในอนาคตต้องเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้มากขึ้น มีถนนสุขุมวิทเป็นถนนสวยประจำเขต โดยจะปรับปรุงระยะทาง 3 กม. ให้มีต้นไม้ที่สวยงาม โดยท่าน ส.ก.ฉัตรชัย หมอดี แนะนำให้ปรับปรุงทางเดินถนนอุดมสุขให้เป็นทางเดินที่ดีตลอดเส้นทาง เนื่องจากมีคนสัญจรจำนวนมาก โดยจะทำเป็นถนนคนเดิน รวมทั้งให้หาจุดที่ทำทางเดินให้มีร่มเงา เป็น covered walkway นอกจากนี้ มีการเก็บภาษีได้ค่อนข้างดี เป็นไปตามเป้าหมาย พยายามตั้งเป้าจัดเก็บให้เพิ่มขึ้นอีก และจะเพิ่มเรื่องข้อมูลให้ครบถ้วนมากขึ้น

“โดยภาพรวมเขตบางนาเป็นเขตที่มีความสำคัญและมีการเพิ่มของจำนวนประชากร เป็นเขตที่อยู่ระหว่างรอยต่อของเมืองชั้นในและเมืองชั้นนอก ผอ.เขตทำงานได้ค่อนข้างเข้มแข็ง คิดว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ คงเร่งการดำเนินงานด้านคุณภาพชีวิต การศึกษา และสาธารณสุข ให้เข้มแข็งขึ้น” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
จากนั้น ผู้ว่าฯกทม.พร้อมคณะลงพื้นที่บริเวณสวนหย่อมท่าน้ำสรรพาวุธ ถนนสรรพาวุธ หน้าวัดบางนานอก ซึ่งมีแผนการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่ เป็นสวนสาธารณะ จากนั้น ลงพื้นที่บริเวณประตูระบายน้ำคลองบางนา และกราบนมัสการพระราชรัตนโสภณ เจ้าคณะเขตพระโขนง-บางนา เจ้าอาวาสวัดบางนานอก โดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ พร้อมคณะ ได้พูดคุยและให้กำลังใจผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์ในการปฏิบัติงานลอกท่อระบายน้ำ บริเวณถนนริมทางรถไฟสายเก่าด้วย

ต่อมาได้ลงพื้นที่ชุมชนร่วมใจประเสริฐ (ซอยจ่าโสด แยก 24) ที่มีปัญหาน้ำท่วมขัง จากนั้นแวะให้กำลังใจนักกีฬาในการแข่งขันกีฬาสามัคคีชุมชมบางนา ประจำปีงบประมาณ 2566 ณ โรงเรียนเพี้ยนพินอนุสรณ์ และลงพื้นที่ชุมชนรุ่งเรือง ซอยสุขุมวิท 103/2 ในประเด็นการแก้ปัญหาการผลักดันเข้าสู่โครงการบ้านมั่นคงฯ เนื่องจากชุมชนตั้งอยู่บนที่ดินเอกชน พร้อมรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากประชาชน จากนั้น ได้ลงพื้นที่โครงการก่อสร้างบางกอกมอลล์ ถนนเทพรัตน กม. 1 เพื่อติดตามมาตรการป้องกันฝุ่นละออง PM2.5 ของโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่