
เมื่อวันที่ 25 พ.ค. หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติประจำจังหวัด (ป.ป.ช.) กำแพงเพชร เปิดเผยถึงผลดำเนินการของสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกำแพงเพชร ในปีงบประมาณ 2566 ทั้งด้านการป้องกันทุจริต ด้านการตรวจสอบทรัพย์สินและด้านการปราบปรามทุจริต รวมถึงผลชี้มูลความผิดในคดีทุจริตที่ผ่านมาเพื่อให้ประชาชนได้ทราบถึงผลการดำเนินงานและคดีที่เป็นน่าสนใจของจังหวัดกำแพงเพชร
นายพิเชฐ พิมพา ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยว่า ป.ป.ช.กำแพงเพชร ได้มีโครงการแก้ไขปัญหาในพื้นที่โดยเฉพาะในเรื่องการร้องเรียน การจัดซื้อจัดจ้างพร้อมมีการเฝ้าระวัง การใช้จ่ายงบประมาณประจำปีของหน่วยงานต่อเนื่อง รวมถึงโครงการ STRONG จิตพอเพียงต้านการทุจริต ซึ่งเป็นการสร้างเครือข่ายประชาชนจิตอาสา และเยาวชนที่เชื่อมโยงความร่วมมือในระดับอำเภอทุกอำเภอได้ดำเนินกิจกรรม ที่เป็นประโยชน์ ไม่ดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและร่วมจับตาการกระทำอันจะก่อให้เกิดการทุจริตในพื้นที่ ส่วนโครงการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ป.ป.ช.ได้ดำเนินการเพื่อเป็นการแสดงความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐที่สามารถตรวจสอบได้ ทั้งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายใน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก และการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ ซึ่ง ป.ป.ช.ได้เข้าไปประเมินมากถึง 91 หน่วยงาน
นอกจากนั้น ยังมีการจัดกิจกรรมในการต่อต้านและลดการทุจริตด้วยกลไกเฉพาะกรณีพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต การจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากลระดับจังหวัดที่บูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องรวมถึง การจัดตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามทุจริต เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและการประเมินสถานการณ์ทุจริตที่สามารถป้องปรามและลดการทุจริตได้อย่างมีประสิทธิภาพตามกลไกของกฎหมายที่ได้บัญญัติไว้อีกด้วย
นายพิเชฐ กล่าวอีกว่า ด้านการปราบปรามทุจริตมีข้อมูลเรื่องกล่าวหาร้องเรียนในปี 2566 จำนวน 37 เรื่อง ดำเนินการเอง 19 เรื่อง ส่งหน่วยงานภายนอก 10 เรื่อง รวบรวมเรื่องซ้ำ 7 เรื่อง และยุติตามระเบียบข้อ 23 ไม่รับพิจารณา 1 เรื่อง สำหรับพื้นที่ตรวจสอบดำเนินการมากสุด คือ อำเภอเมือง 17 เรื่อง หน่วยงานที่ถูกร้องเรียนและกล่าวหาแบ่งออกเป็นองค์กรปกครองท้องถิ่น 23 เรื่อง หน่วยงานรัฐ 14 เรื่อง
ทั้งนี้ ประเภทที่ร้องเรียนได้แก่ การจัดซื้อจัดจ้าง 8 เรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง (ฮั้ว) 7 เรื่อง ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ 11 เรื่อง มีการทุจริต 10 เรื่อง ร่ำรวยผิดปกติ 2 ราย และคดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเสร็จสิ้นแล้ว จำนวน 5 คดีได้แก่ 1.คดีทุจริตขายรถหลวงเอาทรัพย์สินไปเป็นประโยชน์ส่วนตนขององค์การบริหารส่วนตำบลดอนแตง อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร 2.คดีร่วมกันทุจริตเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่นเข้ามามีส่วนได้ส่วนเสียในการทำสัญญาโครงการของรัฐของเทศบาลตำบลพรานกระต่าย อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร
3.คดีร่วมกันทุจริตจัดซื้อหนังสือและสื่อการเรียนการสอนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร โดยวิธีกรณีพิเศษโดยมิชอบ ปี 2551 คดีที่ 4.คือการทุจริตซื้อที่ดินในราคาที่สูงเกินความเป็นจริงของเทศบาลช่องลมอำเภอลานกระบือ จ.กำแพงเพชร และ 5.คดีทุจริตการเบิกจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของเทศบาลตำบลนครชุม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ทั้งนี้ การชี้มูลความผิดทางอาญาของ ป.ป.ช.ยังถือไม่เป็นกลางที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลจนถึงที่สุด
สำหรับ การดำเนินงานที่ผ่านมาถือว่าเป็นสิ่งที่น่าพึงพอใจ เพราะมีผลกระทำการทุจริตลดลงมาได้ระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่น่ากังวลคือ กระบวนการทุจริต ส่วนใหญ่จะกระทำเป็นนอมมินีเสียเอง มีรูปแบบแยบยลมากขึ้น แต่ทุกอย่างก็จะไม่พ้นกระบวนการตรวจสอบทั้งสิ้น ส่วนการร่ำรวยผิดปกติจำนวน 2 รายที่ตรวจสอบพบนั้นรายแรกสังกัด สพฐ.ที่มีความร่ำรวยผิดปกติ 30-40 ล้านบาท ส่วนอีกรายเป็นระดับผู้บริหารกองช่างในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งทั้ง 2 รายได้ส่งให้สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 6 จังหวัดพิษณุโลก ดำเนินการพิจารณาไต่สวน