
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม นางสมหมาย คนชุม อายุ 50 ปี ชาวบ้านโนนศรีสุข ต.หนองโบสถ์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ มีอาชีพรับจ้างเย็บผ้า ได้นำหลักฐานการสนทนากับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ออกมาร้องเรียนและเตือนภัยหลังจากเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมามีคนโทรศัพท์เข้ามาในมือถือของตนเองปลายสายแนะนำตัวเองว่า ชื่อ สกุลอะไร ทั้งบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายเร่งรัดภาษี จากสำนักงานแห่งหนึ่งที่จ. นครสวรรค์ แล้วแจ้งบอกว่าหมายเลขบัตรประชาชนของตนเองไปจดทะเบียนเป็นผู้ขายสินค้าออนไลน์ โดยมีหุ้นส่วนอีก 3 คนเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2564 และมีกำหนดชำระภาษี ในวันที่ 8 มิถุนายน 2565 เป็นจำนวนเงิน 150,500 บาท ยอมรับว่าตกใจมากแต่ก็ตอบกลับไปว่าไม่เคยไปจังหวัดนครสวรรค์ และไม่เคยไปจดทะเบียนบริษัทหรือทำธุรกรรมใดๆที่จังหวัดนครสวรรค์เลย
จากนั้นบุคคลที่โทรมาแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าถ้ายืนยันว่าไม่ได้จะทะเบียนขายออนไลน์หรือทำธุรกรรมใดๆ ก็สามารถแจ้งความทางโทรศัพท์ได้ด้วยความที่กลัวจะมีความผิด จึงตกลงแจ้งความออนไลน์ตามที่เขาแนะนำ แล้วเขาก็ต่อสายให้คุยกับอีกคนที่อ้างว่าเป็นตำรวจ จากนั้นเขาก็ถามว่าได้เปิดบัญชีธนาคารอะไรบ้าง โดยอ้างว่าจะทำการตรวจสอบบัญชีให้ ตนก็เริ่มเอะใจว่าน่าจะเป็นแก๊งมิจฉาชีพหรือคอลเซ็นเตอร์ จึงไหวตัวทันบอกไปว่าบัญชีไม่ได้ใช้งานปิดไปแล้ว พอวางสายจึงตัดสินใจไปแจ้งความที่ สภ.นางรอง ไว้เป็นหลักฐาน
ป้าสมหมาย ยังบอกอีกว่า สิ่งที่กังวลตอนนี้คือกลัวแก๊งมิจฉาชีพจะนำข้อมูลส่วนตัว โดยเฉพาะเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ซึ่งไม่รู้ว่าเขารู้ได้ยังไง แล้วจะนำไปกู้เงินทำให้ตนเองเป็นหนี้สินโดยไม่รู้ตัว ทั้งกลัวจะนำไปทำสิ่งผิดกฎหมาย ก็แปลกใจว่าเขารู้ข้อมูลส่วนตัวตนเองได้ยังไง แต่ก็ยังโชคดีที่ไม่หลงเชื่อโอนเงินไปให้ ก็อยากฝากเตือนภัยคนอื่นว่าอย่าหลงเชื่อเพราะมิจฉาชีพมีทุกรูปแบบ