“ปานเทพ”จี้ทักษิณพิสูจน์ตัวเองไม่เอี่ยว MOU 44 ยังกั๊กปลุกม็อบต้าน

เมื่อวันที่ 24 พ.ยง นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวก่อนขึ้นเวที “ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว เพื่อชาติ” ครั้งที่ 4 ร่วมกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตร ถึงแนวทางการเคลื่อนไหวมวลชนว่า เวทีในวันนี้เป็นเวทีทดสอบกำลัง และอุ่นเครื่องมวลชนที่เคยอยู่กับนายสนธิมาก่อน โดยปราศรัยและให้ความรู้ประชาชน ทั้งเรื่องรัฐธรรมนูญ, MOU44, เรื่องทางการแพทย์ อาชญากรรม รวมถึงประเด็นนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วย

สำหรับ ประเด็นปัญหาเรื่องกระบวนการยุติธรรม และประเด็นทางการเมือง ทั้ง MOU44, เขากระโดง และประเด็นนายทักษิณ จะเป็นเหตุให้ประกาศจุดยืน นัดรวมพลมวลชนหรือไม่นั้น สถานการณ์ขณะนี้ประชาชนรับทราบอยู่แล้ว และไม่เชื่อว่านายทักษิณป่วยจริงในการรักษาตัว และกรณีเขากระโดงก็มีคำพิพากษาศาลฎีกาแล้ว แต่ที่ดินยังไม่กลับคืนสู่การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือกรณี MOU44  ซึ่งอันตรายมาก เพราะลักษณะการขีดเส้นจะไปซ้ำรอยกับประสาทเขาพระวิหาร และมั่นใจว่า MOU44 ไม่ใช่ปัญหาพื้นที่อ้างสิทธิ์ แต่เป็นการอ้างสิทธิ์เกินจริงคร่อมเกาะกูด จึงไม่ใช่พื้นที่อ้างสิทธิที่ถูกต้องในการเจรจา ยกเว้นว่านายทักษิณจะมีผลประโยชน์ฝ่ายกัมพูชา เพราะย้อนไปในปี 2551 มีข่าวจากกัมพูชาว่านายทักษิณมีการลงทุนในเกาะกง 

นายปานเทพ กล่าวว่า ปัจจุบัน MOU44 ที่ลงนามระหว่างอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ยังมีอีกฉบับหนึ่งซึ่งลงนามในวันเดียวกัน เอกสารดังกล่าวกลับหายไปจากสารระบบ ได้แก่ แถลงการณ์ร่วมที่ลงนามระหว่างนายทักษิณ และสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา จึงเท่ากับเป็นการใช้ผู้นำอำนาจฝ่ายบริหารไปตกลงกัน โดยไม่มีพระบรมราชโอการ พร้อมเรียกร้องให้นายทักษิณ พิสูจน์ตัวเองด้วย รวมถึงกรณีที่นายสนธิจะไปทวงถามคดีการลอบยิงตนเองจากนายทักษิณ ที่ยังไม่คืบหน้าด้วย 

เมื่อถามว่า ถ้าให้ประเมินหากมีการปลุกม็อบในครั้งนี้ จะจุดติดหรือไม่นั้น นายปานเทพ ย้ำว่า ยังไม่มีการคิดในเรื่องนี้ เพราะยังไม่ถึงเวลา เป็นเพียงมาประชุมกันในหอประชุมเท่านั้น และยังย้ำว่า ยังไม่ถึงจุดที่จะมีการประเมินว่า สถานการณ์สุกงอมแล้วหรือไม่ แต่ปีหน้ายืนยันได้ว่า จะมีการยื่นหนังสือจากนายสนธิถึงนายกรัฐมนตรีแน่นอน อีกทั้งปฏิเสธว่าการเคลื่อนไหวมวลชนในลักษณะนี้ จะเป็นการนำกฎหมู่ อยู่เหนือกฎหมาย เพราะเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ และอยู่ที่ว่า ประชาชนจะรู้สึกอย่างไร ย้ำอีกว่า การประชุมกันในวันนี้เป็นการทดสอบมวลชนของนายสนธิ
 

Message us