
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ เวลา 08.30 น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือ งและโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช โดยมี นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย น.ส.จรรยา ปัญจเพรี รักษาราชการแทน ผอ.ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ให้การต้อนรับ พร้อมรายงานความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่
ทั้งนี้ อาคารผู้โดยสารที่ก่อสร้างใหม่ เป็นอาคารสูง 2 ชั้น ติดกับอาคารผู้โดยสารหลังเดิม แบ่งโซนผู้โดยสารในประเทศและต่างประเทศ มีหลุมจอดประชิดอาคาร 4 หลุม สะพานเทียบเครื่องบิน หรืองวงช้าง 2 ชุด สายพานรับกระเป๋า 3 สาย มีการเพิ่มความยาวของเส้นทาง หรือรันเวย์จาก 2,100 เมตร เป็น 2,990 เมตร นอกจากนี้ ด้านหน้าอาคารใหม่มีการสร้างพื้นที่จอดรถเพิ่มขึ้น ทั้งลานจอดรถ และอาคารจอดรถ สามารถจอดรถได้ถึง 1,000 คัน เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดใช้อย่างเป็นทางการ ประมาณเดือนพฤษภาคมนี้ จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 1,600 คน/ชั่วโมง หรือ 4 ล้าน 6 แสนคนต่อปี จากเดิมรองรับผู้โดยสารได้เพียงแค่ 1 ล้าน 6 แสนคนต่อปีเท่านั้น ปัจจุบันการก่อสร้าง คืบหน้ามากกว่า ร้อยละ 98
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าววอย่างอารมณ์ดีว่า ตนมาวันนี้เพื่อนำความเจริญมาให้ชาวนครศรีธรรมราช จะพัฒนาให้หมด โครงการสนามบิน,การแก้ปัญหาน้ำท่วม โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราช วันนี้ตนจะไปไหว้พระด้วยจะอธิฐานให้ตนเองนิดหน่อยแต่ส่วนใหญ่จะอธิษฐานให้ประเทศชาติปลอดภัยโดยเฉพาะชาวนครศรีธรรมราช แต่ปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อถูกถามว่า จะยุบสภาวันใหนนายกฯได้แต่โบกมือและยิ้มอย่างอารมณ์ดีโดยไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด
สำหรับ ภารกิจในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะจะลงพื้นที่ติดตามแนวทางการพัฒนา อ.จุฬาภรณ์ และพบปะประชาชนในพื้นที่ อ.จุฬาภรณ์และพื้นที่ใกล้เคียง ต่อด้วยตรวจติดตามการพัฒนาความมั่นคง ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ณ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติงบจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล วงเงิน 722.8 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพบริการทางการแพทย์ สู่ความเป็นเลิศในเขตภาคใต้
จากนั้นช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรี จะไปสักการะหลวงพ่อวัดยางใหญ่ และนมัสการพระครูวินัยธร ณัฏฐาสันต์ สิทธิญาโณ เจ้าอาวาสวัดยางใหญ่ ต่อจากนั้น เดินทางไปวัดเจดีย์ อ.สิชล กราบสักการะพระประธาน นมัสการพระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ รวมทั้งไหว้บูชาไอ้ไข่ เพื่อความเป็นสิริมงคล และลงพื้นที่ติดตาม “วาระเมืองสิชลยุติภัยพิบัติซ้ำซาก เพิ่มพูนศักยภาพการจัดการน้ำ” และพบประชาชนที่วัดเจดีย์ ก่อนที่จะไปจุดพื้นที่คลองเปลี่ยน ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาพื้นที่ประสบอุทกภัยซ้ำซากบริเวณคลองเปลี่ยนพื้นที่รอยต่อ ต.เปลี่ยน และ ต.เทพราช อ.สิชล โดย อ.สิชลและพื้นที่ใกล้เคียง