
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม เวลา 12.00 น.กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา มีประกาศฉบับที่ 2 (81/2566) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2566 เวลา 05.00 น. แจ้งว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกและฟ้าผ่าซึ่งเริ่มมีผลกระทบในบริเวณ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงภาคเหนือ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป โดยมีพื้นที่เฝ้าระวัง
สถานการณ์ฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ระหว่างวันที่ 26 – 29 มีนาคม 2566 ดังนี้
ภาคเหนือ ได้แก่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ และอุทัยธานี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์
ภาคกลาง ได้แก่ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) จึงได้ประสาน 50 จังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมพร้อมรับมือพายุฤดูร้อนที่อาจเกิดขึ้นโดยโดยจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมงและจัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงเพื่อเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้ทันที ทั้งนี้ ให้จังหวัด
สามารถติดตามสถานการณ์และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และแจ้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ตลอดจนประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง
สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้ติดตามสภาพอากาศ
และข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อม
รับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น ขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งก่อสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง แข็งแรง อีกทั้งงดใช้เครื่องมือ
สื่อสารและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท เพื่อป้องกัน
อันตรายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนเกษตรกรควรป้องกันผลิตผล
ทางการเกษตรที่อาจได้รับความเสียหายจากลมกระโชกแรง
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” รวมถึงแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสาน
ให้การช่วยเหลือต่อไป