
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่วัดพุทธอุทยานดอนอินทรีย์ ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าดอยอินทรีย์ หมู่ที่ 3 ต.ดอยฮาง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระเศียร “พระพุทธบารมีรักษาป่า รักษาธรรม รักษาชีวิตสัตว์” ตามโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี “ป่านี้มีผลผู้คนรักกัน” เขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง (SEDZ) ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ แก้ปัญหาหมอกควันไฟป่าที่เหตุแห่งปัญหา ส่งเสริมให้ทุก ๆ ภาคส่วนมีส่วนร่วมด้วยช่วยกันด้วยความ “สามัคคีเป็นพลังค้ำจุนแผ่นดินไทย” ในโครงการ “บวร” จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองเนื่องในการจัดงานวันดินโลก ปี 2565 (World Soil Day 2022)
ทั้งนี้ ได้รับเมตตาจาก พระครูขันติพลาธร รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เจ้าอาวาสวัดฝั่งหมิ่น พระครูสิริธรรมนิวิฐ เจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงราย เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง พระอาจารย์วิบูลย์ ธมฺมเตโช เจ้าอาวาสวัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์ พระวีระยุทธ์ อภิวีโร วัดพระบรมธาตุดอยผาส้ม และคณะสงฆ์ ร่วมอนุโมทนา โดยมี นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รองศาสตราจารย์วรวรรณ โรจนไพบูลย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเชฐ โสวิทยสกุล นายประสพโชค อยู่สำราญ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายจิรชัย มูลทองโร่ย สมาชิกวุฒิสภา นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ นายวราดิศร อ่อนนุช นางภัทราวดี สุทธิธนกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ 18 อำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีเครือข่าย ร่วมในพิธี

โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ ได้ มอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนการอนุรักษ์ ฟื้นฟูรักษา ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย รวม 12 คน และเป็นประธานสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 และฟื้นฟูดูแลรักษาป่าด้วยความ “สามัคคีเป็นพลัง ค้ำจุนแผ่นดินไทย” ตามแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานไว้ และสนองพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด พร้อมทั้งมอบนโยบายขับเคลื่อนการพัฒนาตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน SDGs และการขับเคลื่อนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง (SEDZ) ด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่
นายสุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันที่มีความสำคัญอีกวันหนึ่งซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้รับเมตตาจากคณะสงฆ์ ในการขับเคลื่อนภายใต้หลัก “บวร” คือ บ้าน วัด ราชการ ซึ่งทั้งพี่น้องผู้นำท้องที่ คือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พี่น้องประชาชน เด็ก เยาวชน และบรรดาอาสาสมัครต่าง ๆ จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กลุ่มสตรีอาสารักษาดินแดน ตลอดจนพี่น้องประชาชนภาคีเครือข่ายโดยรอบบริเวณดอยอินทรีย์แห่งนี้ ได้ร่วมไม้ร่วมมือมาโดยพร้อมเพียงกันเพื่อทำในสิ่งที่ยั่งยืนให้กับโลกของเรา คือ การที่พวกเราจะได้ช่วยกันฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ฟื้นฟูป่าไม้ที่เสื่อมโทรมอันเนื่องมาจากการใช้ชีวิตของพวกเรา ทั้งบ้าน วัด ราชการ ที่จะได้รับประโยชน์และได้รับโทษโดยตรงก่อนคนอื่นจากความอุดมสมบูรณ์และความเสื่อมโทรมของป่าไม้ เพราะคนข้างล่างจะได้รับผลที่เกิดขึ้น ถ้าด้านบนไม่ดี ความลำบากยากแค้น ความแห้งแล้ง PM2.5 ก็จะเกิดขึ้น ถ้าอุดมสมบูรณ์ เราก็จะมีความสุข อาหารการกินดี ดินฟ้าอากาศดี ส่งผลไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศ

“แม้ว่ากรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศอย่างเป็นทางการว่าในขณะนี้ประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว แต่ในขณะเดียวกันก็มีประกาศเพิ่มเติมว่า เราจะได้รับผลกระทบจากเอลนีโญหรือสภาพความแห้งแล้งของภูมิอากาศที่กระทบไปทั่วโลก อันเกิดจากการใช้ชีวิตของมนุษย์ที่ทำลายสิ่งแวดล้อมและความสมดุลทางธรรมชาติ เช่น ตัดต้นไม้ จุดไฟเผาป่า ปล่อยน้ำเน่าเสียลงสู่ลำน้ำสาธารณะ ใช้เครื่องจักร ใช้รถยนต์ที่ปล่อยควันพิษ รวมถึงทิ้งขยะโดยไม่แยกประเภทจนเป็นกองขยะหมักหมมเป็นก๊าซเสียลอยสู่ชั้นบรรยากาศ ที่ล้วนส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เกิดน้ำท่วม ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ส่งผลให้มีโรคระบาดใหม่ ๆ เกิดขึ้น” นายสุทธิพงษ์ กล่าว
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า งานในวันนี้ แสดงให้เห็นถึงความรัก ความสามัคคีของทุกภาคส่วนที่มาชุมนุมร่วมกัน ณ ที่แห่งนี้ ทั้งจากส่วนกลาง และจังหวัดเชียงราย ที่ล้วนแล้วมีความมุ่งมั่นตั้งใจสนองพระราชปณิธานอันมุ่งมั่นของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงปรารถนาให้เกิดขึ้นในสังคม คือ “จิตอาสา” อันหมายถึง การที่เราสมัครใจมาช่วยกันทำสิ่งที่ดีให้กับส่วนรวมโดยไม่หวังผลตอบแทน รวมทั้งหลักการทรงงาน “บวร” คือการทำงานจากทุกภาคส่วน ทุกเพศ ทุกวัย นอกจากนี้ พวกเราทุกคนที่นับถือศาสนาพุทธ ต้องร่วมกันให้ความสำคัญกับป่าไม้ กับต้นไม้ ดังที่ฐานพระพุทธบารมีรักษาป่า ได้ปรากฏข้อความว่า “พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ล้วนแล้วแต่ตรัสรู้ใต้ต้นไม้” ดังนั้นประโยชน์ของต้นไม้จึงมีอเนกอนันต์ ทั้งให้ออกซิเจน ให้อาหาร ให้ยารักษาโรค ให้ที่อยู่อาศัย ให้เครื่องไม้ใช้สอย ให้ความร่มเย็นเป็นสุขแก่ทั้งคนและสรรพสัตว์ทั้งหลาย และยังเป็นยาอายุวัฒนะแก่โลกใบเดียวของเรา เพื่อที่เราสามารถอยู่อาศัยได้ในโลก

นายสุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่พวกเราควรภาคภูมิใจ แต่จุดเริ่มต้นที่ดี ณ ที่แห่งนี้ยังไม่เพียงพอ คนอำเภอเมืองเชียงรายอำเภอเดียวไม่สามารถปกป้องโลกใบนี้ได้ แต่สามารถช่วยต่ออายุของโลกใบนี้ได้ เพราะพวกเราทุกคนจะช่วยกันเป็นกระบอกเสียงและนำตัวอย่างที่ดีที่แห่งนี้ กระจายให้เกิดขึ้นทั่วประเทศด้วยกันต่อไป เพื่อให้เกิดการ Change for Good สร้างสิ่งที่ดี อันเป็นการทำบุญให้กับโลกของเรา เป็นปฏิบัติบูชาที่สำคัญยิ่งถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และมอบให้บรรพบุรุษของเราที่เสียสละเลือดเนื้อ ปกป้องรักษาเอกราชของประเทศชาติ ให้ตกทอดมาถึงพวกเราได้อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน
