
เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ได้มีรถตู้ยี่ห้อโตโยต้าอัลพาร์ต สีดำ ทะเบียน งษ 99 เป็นรถที่ น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือ ดาว พี่สาวภรรยาทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เคยนั่งมาให้ปากคำ โดยรถคันดังกล่าวถูกขับวนเข้ามาที่อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม โดยอ้อมด้านหลังหลบนักข่าว ก่อนจะขับออกไปทันที
พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. เดินทางเข้าประชุมติดตามคดี น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือแม่ตั๊ก นายกานต์พล เรืองอร่าม หรือ ป๋าเบียร์ ในล็อต 2 โดยเปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีทนายตั้มว่า วันนี้ตนมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดีแม่ตั๊กและป๋าเบียร์ เนื่องจากวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนส่วนหนึ่ง ส่งไปให้อัยการและสั่งฟ้องไปแล้ว แต่ในช่วงนี้ก็ยังมีผู้เสียหายหลายรายที่ได้รับความเดือดร้อนและยังประสงค์ร้องทุกข์กล่าวโทษอยู่
สำหรับ คดีทนายตั้ม จะขยายผลถึงใคร ก็เป็นขั้นตอนการทำงานทั้งฝ่ายสืบสวนและสอบสวน โดยการดำเนินการก็จะต้องมีการตรวจสอบว่า มีใครมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และรวบรวมพยานหลักฐาน โดยที่ผ่านมาฝ่ายสืบสวนก็ได้รายงานความคืบหน้าอยู่หลายส่วน อย่างไรก็ตามจะต้องพิจารณาว่าจะนำเข้าในสำนวนหรือไม่ ต้องดูว่าเป็นประโยชน์หรือสามารถเป็นพยานหลักฐานยืนยันได้หรือไม่กรณีนายเล็กคนขับรถของทนายตั้ม ในชั้นนี้ยังถือว่า เป็นพยานอยู่ แต่ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนที่วางแผนในการสอบสวนเอาไว้
เมื่อถามถึงการสอบปากคำของ น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือดาว พี่สาวภรรยาทนายตั้ม พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า ตนทราบว่า น.ส.ปิณฑิรา ให้ความร่วมมือน้อยมาก ให้การไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ทางตำรวจมีพยานหลักฐานมากเพียงพออยู่แล้ว เพียงแค่สอบถามว่าจะรับสารภาพหรือไม่เท่านั้น เป็นการให้โอกาสพิสูจน์ความผิด ส่วน น.ส.ปิณฑิรา จะมีความเชื่อมโยงไปถึงใคร ก็อยู่ระหว่างขยายผล ว่าจะมีใครมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะออกหมายจับใครเพิ่มเติม