“บิ๊กป๊อก”ลั่นหมดไฟส่งสัญญาณไม่ไปต่อทางการเมือง

เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2565พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวระหว่าง เป็นประธานพิธีเปิดการอบรมสัมมนา “การพัฒนาศักยภาพของท้องถิ่นสู่ความเป็นเมือง ตามหลักการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นไทย” พร้อมกล่าวปาฐกถา “บทบาท อบต.กับการพัฒนาฐานรากประเทศไทย” โดยมีผู้บริหารองค์การบริการส่วนตำบล (อบต.) 5,300 แห่งทั่วประเทศ เข้าร่วมสัมมนาที่จ.เชียงใหม่ ตอนหนึ่ง ระบุว่า เป็นครั้งแรกตั้งแต่เป็นรมว.มหาดไทย เพิ่งเคยพบกับผู้นำท้องถิ่นเยอะขนาดนี้ และการเดินทางมาเพื่อรับฟังปัญหา มองการทำงานของทุกภาคส่วน ไม่ได้มีนัยอะไรทั้งสิ้น

“ ไม่ได้มุ่งหวังทางการเมือง การเมืองไม่ใช่อนาคตของผม ไม่มีนัยยะอื่นนอกจากการทำงานเป็นหลัก ผมก็เป็นคนแก่คนหนึ่งที่อยากบอกท่านว่า ผมก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยกับท่านนั่นแหละ ผมก็อยู่เชียร์ท่านอีกไม่กี่เดือน แล้ววันหนึ่งผมก็จะไปเดินกินก๋วยเตี๋ยวในพื้นที่ท่าน เป็นตาแก่คนหนึ่งก็ดูแลด้วย โกรธก็อย่ามาเตะมาต่อย เตะไปก็เปลืองแรงเปล่าๆ เดี่ยวก็ตายแล้ว ไม่เกิดประโยชน์กับตัวท่านเอง “พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า ท่านมีจิตใจที่จะทำงานเพื่อสังคม แต่ไฟผมหมดแล้ว ให้ท่านทำไป ผมเป็นกำลังใจให้ แล้วจะทำในส่วนที่ทำได้ ข้อเสนอที่ส่งมาอะไรทำได้จะเร่งทำให้ อะไรยังทำไม่ได้ก็จะบอกกันตรงๆ” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

ทั้งนี้ สมาคม นายกฯ อบต.แห่งประเทศไทย ได้เสนอข้อเรียกร้องเพื่อแก้ปัญหาอุปสรรค และสร้างความเสมอภาค ของ สมาชิก อบต. โดยขอให้แก้ไขปัญหาการทำงานของ อบต. ทั้งการกระจายอำอาจ การบริหารงานบุคคลจากส่วนกลางให้ท้องถิ่นสรรหาบุคลากรได้เอง

นอกจากนี้ ขอเพิ่มค่าตอบแทน ผู้บริหาร และสมาชิก อบต., ขอสวัสดิการเบิกค่าเล่าเรียนบุตร, เพิ่มสัดส่วนการพัฒนา ท้องถิ่น จัดสรรงบประมาณ สำหรับ อบต.ที่ได้งบประมาณ ไม่ถึง 30 ล้านบาท รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการใช้งบประมาณ โดยให้มหาดไทยประสานไปยังกรมบัญชีกลาง เพื่อสามารถคิดเลือกผู้รับจ้างงาน ในวงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท เพื่อให้ท้องถิ่นและหน่วยงานภาครัฐใช้งบฯ ได้อย่างรวดเร็ว และกระตุ้นเศรษฐกิจจากการใช้งบฯจากภาครัฐ

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า จะเร่งพิจารณาปรับปรุงเพิ่มค่าตอบแทนผู้บริหารและสมาชิก อบต.ให้แน่นอน พร้อม สั่งการให้ผู้บริหารท้องถิ่นทำหนังสื่อราชการร่างหลักเกณฑ์การพิจารณาค่าตอบแทน

สำหรับเรื่องการเพิ่มบุคลลาการไม่น่าจะทำได้ เพราะงบประมาณสำหรับบุคลากรเต็ม 40% แล้ว หากเกินกว่านี้สังคมจะรับไม่ได้ ข้าราชการ 1 คน ตั้งแต่บรรจุจนถึงเกษียณ จะใช้งบประมาณถึง 30 ล้านบาท และเห็นว่าบางตำแหน่งท้องถิ่นไม่ควรทำเอง เพราะไม่ใช่งานที่ถนัดต้องให้หน่วยงานที่ชำนาญมาทำเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างมีศักยภาพ เช่น งานด้านโยธา

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนเองไม่ใช่ศัตรูกับ อบต. การเข้ามาอยู่ตรงนี้มาจากปัญหาการทุจริตมหาศาล มีการบรรจุ ญาติพี่น้องเข้ามาทำงาน จำนวนมาก จึงแก้ปัญหาด้วยการให้หน่วยงานกลางดำเนินการจัดการสอบ เพราะหาก ท้องถิ่นจะเปิดสอบเองจะต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ คุณสมบัติ ตรงกับงานที่จะเข้ามาทำงาน

“ขอ อบต.อย่าหงอย ขอให้ทำงานต่อไป คำพูดของผมไม่ได้เอาใจใคร แต่ต้องให้งบประมาณ ไปดูแลประชาชน ยืนยัน ต้องดูแลพี่น้องประชาชนเท่ากัน ฝากการบ้านถึงผู้บริหารท้องถิ่นพยายามหารายได้เพิ่มเติมมาอุดหนุนหน่วยงานของตนเอง เพื่อนำกลับมาพัฒนาหรือบาง อบต. อาจจะควบรวมกันยกระดับขึ้นเป็นเทศบาล เพื่อรวมงบประมาณให้ได้มากขึ้น” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า สัปดาห์หน้าที่ประชุม ครม. จะอนุมัติเงินเยียวยาน้ำท่วม โดยแบ่งเป็น ครอบครัวละ 5,000 บาท 7,000 บาท และ 9,000 บาท แล้วแต่ระยะเวลาที่ได้รับผลกระทบ พร้อมย้ำว่าจะพิจารณาเพิ่มฐานค่าตอบแทนให้ แต่รายได้ก็ขึ้นอยู่กับจะหาได้ในแต่ละพื้นที่

Message us