
เมื่อวันที่10 พฤศจิกายน 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และภริยา เดินทางเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 40 และ 41 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ระหว่างวันที่ 10-13 พ.ย. 2565 โดยเมื่อเดินทางไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ ได้เข้าร่วมหารือระหว่างผู้นำอาเซียนกับผู้แทนสมัชชารัฐสภาอาเซียน (ASEAN Inter-Parliamentary Assembly: AIPA) ซึ่งในปีนี้ วัตถุประสงค์สำคัญของการจัดการประชุม AIPA คือ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติในการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียน และปรึกษาหารือในการรับมือประเด็นความท้าทายร่วมกัน
ทั้งนี้การประชุม AIPA เป็นการประชุมแบบเต็มคณะ (plenary) โดยมีสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาและประธานอาเซียน เป็นประธานการประชุม และมีผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ ผู้แทนจากรัฐสภาประเทศสมาชิก อาเซียน 9 ประเทศ (เมียนมาไม่เข้าร่วม) เลขาธิการอาเซียน และเลขาธิการ AIPA ซึ่งนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาเป็นผู้แทนรัฐสภาไทยเข้าร่วมด้วย
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสาระสำคัญจากคำกล่าวแสดงความคิดเห็นในการประชุมดังกล่าวของพล.อ.ประยุทธ์ ว่า ยินดีที่ได้พบกับสมาชิก AIPA วันนี้ การควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพแสดงถึงความสำเร็จของรัฐบาล ฝ่ายนิติบัญญัติ และประชาชนที่ร่วมมือเพื่อรับมือกับความท้าทายนี้ อย่างไรก็ดี ต้องร่วมมือกันต่อไปเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ แก้ไขประเด็นด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมตามคำกล่าวของประธาน AIPA
นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า AIPA สนับสนุนการดำเนินการของรัฐบาลสมาชิกในอาเซียนได้ 3 ประการ ดังนี้ 1. ตอบสนองต่อการรับมือและบรรเทาผลกระทบจากความท้าทายต่าง ๆ อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารต้องร่วมมือกันต่อไปเพื่อพิจารณาผ่านร่างกฎหมายที่จำเป็นและงบประมาณของประเทศเพื่อส่งเสริมความมั่นคงด้านสาธารณสุข
2.ขับเคลื่อนวาระของประชาชน หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถ่ายทอดความเห็นของประชาชนมายังรัฐบาล โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับประชาชนเพื่อขยายผลไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และเพื่อความผาสุกของประชาชน
3.แก้ไขหรือออกกฎหมายภายในให้สอดคล้องกับพันธกรณี และความตกลงของอาเซียน ส่งเสริมการรวมตัวทางเศรษฐกิจ โดยนายกรัฐมนตรียินดีที่ RCEP มีผลบังคับใช้แล้ว และหวังว่าประเทศที่เหลือจะเร่งดำเนินการให้สัตยาบันโดยเร็ว เพื่อใช้ผลประโยชน์จากความตกลงฯ ร่วมกัน และในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่ารัฐสภาอาเซียนจะช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วน นำประชาคมอาเซียนสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นประชาคมเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
สำหรับกำหนดการประชุมที่สำคัญของนายกฯ ในวันศุกร์ที่ 11 พ.ย.2565 เวลา 08.30 พิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 40 และ 41 เวลา 08.50 น.เป็นการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 40 เวลา 10.30 น.การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 41 เวลา 14.00 น. การประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ครั้งที่ 25 เวลา 15.20 น.การประชุมสุดยอดอาเซียน สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 23 และเวลา 17.30 น. การประชุมสุดยอดอาเซียน สหประชาชาติ ครั้งที่ 12
ในส่วนวันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2565 เวลา 08.00 น. เป็นการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 25 เวลา 09.50 น. การประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย ครั้งที่ 19 เพื่อฉลองวาระครบรอบ 30 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-อินเดีย เวลา 11.10 น. การประชุมสุดยอดอาเซียน ออสเตรเลีย ครั้งที่ 2 เวลา 14.00 น. การประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 25 เวลา 15.20 น. การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ครั้งที่ 10 เวลา 16.40 น.การประชุมสุดยอดอาเซียน-แคนาดา สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-แคนาดา และเวลา 19.30 น. งานเลี้ยง Gala Dinner
สำหรับวันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน 2565 เวลา 08.00 น. – การประชุม ASEAN Global Dialogue ครั้งที่ 2 เวลา 10.15 น. การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 17 เวลา 12.30 น. พิธีปิด และพิธีส่งมอบตำแหน่งประธานอาเซียน จากนั้นในช่วงเย็น นายกฯ เดินทางกลับประเทศไทย