นายกฯสั่งหามาตรการเร่งแก้ปัญหาส่งออกทุเรียน-ผลไม้อื่นและกุ้งทะเลไทย

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ที่บริเวณโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ได้รับรายงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า ปี 2568 มีผลไม้หลายชนิดมีผลผลิตเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะทุเรียน ซึ่งเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สร้างรายได้จากการส่งออกให้ประเทศไทยมากกว่า 150,000 ล้านบาท/ต่อปี โดยประเทศจีนเป็นประเทศหลักในการรับซื้อ ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาของเรื่องราคาตกต่ำ และผลไม้ตกค้างในช่วงที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก ในระยะเวลา 2 – 3 เดือนข้างหน้า ขอมอบหมายให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมมาตรการต่าง ๆ เพื่อบริหารจัดการก่อนที่ผลไม้จะออกสู่ตลาด

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการประสานร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศจีน เพื่ออำนวยความสะดวกในทุกมิติ

นอกจากนี้ ครม.ได้มอบหมายให้กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หามาตรการแก้ไขปัญหาของเรื่องกุ้งทะเลของไทย โดยให้ดำเนินการเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นในระยะยาว และจากการรายงานตัวเลขด้านการส่งกุ้งพบว่าตกเป็นอย่างมาก ดังนั้น ต้องมีโครงการต่าง ๆ เข้ามาช่วยเหลือ เช่น  โครงการสนับสนุนอาหารกุ้งทะเล โครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง โครงการกระจายผลผลิตกุ้งและทะเลคุณภาพสู่ผู้บริโภคในประเทศ และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตกุ้งเพื่อให้ประเทศไทย เป็นผู้นำด้านการผลิตและการส่งออกกุ้งอีกครั้ง

นายกฯ กล่าวว่า ครม. ได้เห็นชอบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ การกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลประกอบการ ผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้ายฤดูการผลิตปี 2566/2567 เป็นรายเขต จำนวน 9 เขต โดยมีราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฤดูการผลิตปี 2566/2567 ในอัตรา 1,404.17 บาทต่อตันอ้อย และมีผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูกาลผลิตปี 2566/2567 อัตราเฉลี่ยทั่วประเทศเท่ากับ 601.79 บาทต่อตันอ้อย

Message us