เมื่อวันที่ 15 มกราคม ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมสัมมนาและมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ที่ได้ระบุบนเวทีแม้ตัวเองเป็นนายกฯ ก้ยังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์สวมรอยเป็นผู้นำบางประเทศโทรมาหลอกให้บริจาคเงิน ว่า โดนสวมรอยว่าเป็นประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้เสียงเหมือนผู้นำเป็นเสียง AI ซึ่งคอลเซ็นเตอร์ปกติที่เคยเจอจะเป็นแนวที่ใช้เบอร์แปลกๆโทรมา ทำให้เราทราบว่าเป็นคอลเซ็นเตอร์ แต่ครั้งนี้ที่โดนเป็นการใช้ AI ไปเอาเสียงของผู้นำประเทศมา โดยส่งคลิปมาก่อน เพื่อพูดคุยสอบถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง และอยากทำงานร่วมกัน
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนได้พิมพ์ตอบกลับไปโดยไม่ได้ส่งเสียง สักพักได้หายไปโดยระบุว่าจะติดต่อกลับมา จากนั้นได้โทรกลับมา แต่โชคดีที่โทรมาตอน 23.00 น. หลับไปแล้วจึงไม่ได้รับสาย พอมาเห็นตอนเช้ารู้สึกตกใจมาก และส่งข้อความกลับไปว่า ขอโทษที่ไม่ได้รับโทรศัพท์ และนัดเวลาว่าจะโทรหากี่โมง จากนั้นคนร้ายก็ส่งคลิปมาอีกครั้งว่าขอให้บริจาค และย้ำว่าไทยเป็นประเทศในอาเซียนที่ยังไม่ได้บริจาคเลย ทำให้รู้สึกว่าไม่ใช่แล้ว เพราะมาเห็นบัญชีที่ส่งมาให้โอนเงินเป็นของอีกประเทศหนึ่ง จึงมั่นใจว่าเป็นคอลเซ็นเตอร์ จึงฝากนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ช่วยดูต่อ เพราะการส่งมาเป็นแอพลิเคชั่นต่างประเทศไม่ใช่ไลน์ แต่ไม่แน่ใจว่าจะดูได้แค่ไหน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้แจ้งไปถึงผู้นำประเทศนั้นหรือไม่ว่าโดนแอบอ้าง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องนี้มีรายละเอียดที่มากกว่านั้น ที่จริงไม่ใช่อยู่ๆ จะได้คอนแท็คติดต่อกับตน แต่มีอีกคนที่โดนหลอกมาก่อน แต่คนก่อเหตุรู้ว่าคนที่โดนหลอกมีคอนเนคชั่นกับตนก็เลยติดต่อมา สรุปคือคอลเซ็นเตอร์ได้คอนแท็คมาจากคนอื่นอีกทอด เพราะหลอกมาหลายคนและแจ็กพ็อตมาเจอที่ตน ขอเตือนภัยประชาชนว่า บางทีที่มีการแอบอ้างให้ระวัง เพราะเคยเจอสมัยที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังไม่กลับมาที่ประเทศไทยมีคนส่งมาว่านายทักษิณแจกเงิน โดยมีเสียงของนายทักษิณพูดประกอบ ทั้งที่ตัวเองไม่ได้รับบริจาค มีเส้นหรือรับเงินอะไรทั้งสิ้น ดังนั้น อย่าให้ถูกหลอก ยืนยันว่าตนไม่มีไปรับเงินอะไรทั้งสิ้นอย่าถูกหลอก เพราะเรื่องนี้ทำให้รู้สึกกังวลใจมาก
