
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมร่วมกับคณะกรรมการข้าราชการตํารวจ (ก.ตร.) ในวันพรุ่งนี้ (26 มิถุนายน) ว่า การประชุมร่วมจะมีการพูดถึงกรณีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ในการกลับมาเป็นข้าราชการตำรวจ แต่ก็ต้องมีขั้นตอนของกฎหมาย รวมถึงคณะกรรมการที่พิจารณาด้านการสอบสวนวินัย และคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมร่วมพิจารณาและฟังรายงานอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่าถ้าหากนายกฯ ไม่แก้ไขไม่ทบทวนข้อสั่งการ จะมีการฟ้องดำเนินกับนายกฯด้วย นายกฯ กล่าวว่า ในเรื่องของการทบทวนแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ส่วนตัวไม่ได้นิ่งนอนใจ จะเห็นได้จากช่วงระยะเวลา 3 – 4 เดือนที่ผ่านมา พยายามดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอยู่ แต่มีขั้นตอนกฎหมายที่ต้องดำเนินการ และการที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตํารวจ (ก.ตร.) ในวันพรุ่งนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในขั้นตอน ที่จะต้องเข้าประชุม การรับฟังคณะกรรมการสอบสวนวินัยและคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตนไม่ทราบว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อไร ถ้าหากเรื่องดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว เชื่อว่าจะดำเนินงานต่อไปได้ เข้าใจและเห็นใจทุก ๆ คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตนไม่ได้ลำเอียงเข้าข้างคนใดคนหนึ่ง ให้ความเป็นธรรมแก่ทุก ๆ ฝ่าย
เมื่อถามต่อว่า เรื่องดังกล่าว ถือเป็นขู่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ก็ได้รับความเดือดร้อนและมีความร้อนใจ ตนเองเชื่อว่าในส่วนนี้ ในฐานะที่เราเป็นคนทำงานด้วยกัน ก็เข้าใจความร้อนใจ มองว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นการขู่ เมื่อถามต่อไปถึงกรณีให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช) มีความปรองดองกันเลยให้มีการกลับไปทำงานร่วมกัน แต่ภาพที่ออกมา ทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ดูเหมือนจะเดินหน้าฟ้องร้องทุกอย่างที่ถูกกระทำ จะปรองดองกันได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องความปรองดองทุก ๆ ฝ่าย ตนเองอยากจะเอาความปรองดองเป็นแค่ทางผ่าน แต่จุดประสงค์ใหญ่ที่อยากให้มีความปรองดองคืออยากให้มีการดูทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน เพราะในปัจจุบันนี้มีปัญหาเกิดขึ้นมากต้องก้าวข้าม โดยหวังว่าทุกฝ่ายจะเข้าใจ เรื่องของขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม เรื่องของกฎหมายย รวมถึงคณะกรรมการอิสระที่เราตั้งขึ้นมาหรือมีการร้องเรียนจากทุกฝ่าย ต้องมีการพิจารณา
เมื่อถามว่า กรณีที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผบ.ตร.มีส่วนในการที่จะถูกฟ้องร่วมด้วย นายกฯ จะให้กำลังใจได้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เชื่อว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รักษาการ ผบ.ตร พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รวมถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตนเองเชื่อว่าทุก ๆ ท่านเองก็มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ตนอยากจะขอบอกว่าทุก ๆ ท่าน ก็มีวุฒิภาวะสูง เรื่องปัญหาส่วนตัว ขอให้ดำเนินการตามกฎหมาย อยากให้ทุก ๆ ท่านนึกถึงว่าเรามาอยู่ในนี้เพื่ออะไร การดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องที่สำคัญ ตนเองเชื่อว่าเรื่องของกำลังใจทุก ๆ ท่านเองก็อยู่ในหน้าที่การงานมาแล้วมากกว่า 10 ปี และเชื่อว่าทุก ๆ ท่านรู้ว่าหน้าที่คืออะไร
เมื่อถามต่อว่านายกฯ จะมีวิธีการจัดการอย่างไรเพราะเรื่องดังกล่าวเป็นตำรวจระดับชั้นผู้ใหญ่ ทำให้ลูกน้องเกิดการแบ่งฝ่ายกัน นายกฯ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง ได้ให้แนวทางการปฏิบัติไปว่า เรื่องของทุกข์สุขประชาชนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ในเรื่องของการพูดคุยเป็นการส่วนตัวตนยังไม่มี พรุ่งนี้คาดว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ก็จะเข้าร่วมประชุม คาดว่า จะมีการพูดคุยในที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตํารวจ (ก.ตร.) ซึ่งตนเองเป็นแค่หนึ่งเสียง เพราะในที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตํารวจ (ก.ตร.) มีหลาย ๆ ท่านที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ และอดีตผู้บริหารสูงสุด ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ต้องรับฟังความคิดเห็นเหล่านั้นด้วยเช่นกัน