
นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ หรือนายกอุ๊ ผู้สมัครนายกอบจ.อยธุยา เบอร์ 1 ทีมก้าวใหม่อยุธยา ได้แถลงเปิดตัวทีมงานก้าวใหม่อยุธยาจัดแถลงนโยบายครั้งแรกกับงาน “เปลี่ยนอยุธยา… พัฒนาด้วยนวัตกรรม #ทราบแล้วเปลี่ยน ณ โรงภาพยนตร์ 1 SF เซ็นทรัลอยุธยา พร้อมเปิด 11 นโยบายก้าวใหม่อยุธยาพัฒนาเพื่อทุกคน โดย บรรยากาศภายในงานถือเป็นมิติใหม่ในการเลือกตั้งท้องถิ่นอยุธยา ที่มีการจัดแถลงนโยบายเพื่อแสดงวิสัยทัศน์ ในการพัฒนาอยุธยา
ทั้งนี้ มีผู้สนับสนุน นายกอุ๊ ทีมก้าวใหม่อยุธยา ทีมอาสาก้าวไกล ที่ก่อตั้งโดย สส.ชริน วงศ์พันธ์ุเที่ยง พรรคก้าวไก ลเขต1 และนักการเมืองท้องถิ่น รวมถึงสมาชิกพรรคการเมืองจากหลายพรรคมาให้กำลังใจ รวมถึงประชาชนที่ให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

นายวัชรพงศ์ กล่าวว่า 11 นโยบาย ของตน ที่จะ”เปลี่ยนอยุธยา… พัฒนาด้วยนวัตกรรม #ทราบแล้วเปลี่ยน นั้น ประกอบด้วย 1.การท่องเที่ยว โดยเฉพาะด้านวัฒนธรรมนั้นของอยุธยา จัดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ โดยตนมีนโยบาย ในการ เติมคน เติมเงิน สู่อยุธยา ใน 16 อำเภอ ขณะเดียวก้นจะจัดทำ Platform การบริหารจัดการการท่องเที่ยวในอยุธยา พร้อมจัดเส้นทางการท่องเที่ยวสายมู ใน 16 อำเภออีกทั้งยังมีรถเมล์ท่องเที่ยวใน 16 อำเภอ รวมถึงท่องเที่ยวเชิงอาหาร 16 อำเภอ (gastronomy tourism) อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีรูปแบบการท่องเที่ยวมูลค่าสูง EXPERIENCE เพื่อขายประสบการณ์ ทั้งยังปลดล็อกผังเมืองสร้างบูติกโฮเทลไม่เกิน 30 ห้อง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว และเร่งบริหารจัดการริมแม่น้ำ รวมทั้งโซนท่องเที่ยวในเมืองและนอกเมืองให้สวยงามและเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยด้วย

นโยบายที่ 2. ตนให้ความสำคัญกับเรื่องประชาชนในอยุธยาเป็นหลัก ตนจึงให้น้ำหนักกับเรื่องคุณภาพชีวิต และสาธารณสุข ซึ่งเป็นหัวใจหลักของตน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ โดยจะมีโครงการดูแลผู้สูงอายุผู้สูงวัยไร้กังวล โครงการ HOME CARE ดูแลถึงบ้าน โครงการบ้านพักผู้สูงวัย พร้อมทั้งศูนย์ฟอกไต และทันตกรรม ใน 16 อำเภอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้สูงวัย
นายกอุ๊ กล่าวด้วยว่า ตนยังให้ความสำคัญกับด้านการศึกษาและพัฒนาบุคคล ตนจึงชูเรื่องนี้เป็นนโยบายที่ 3 ซึ่งตนจะพัฒนาโรงเรียนในอยุธยา โดยการเพิ่มโรงเรียนอินเตอร์ให้มีมากขึ้นใน 16 อำเภอ เพื่อเพิ่มศักยภาพบุคคล หรือบุคลากร เพื่อกลับมาสร้างอยุธยา ดังนั้น ตนจะสร้างความเท่าเทียมด้านการศึกษาให้กับเด็กๆ ในอยุธยา ทุกคนต้องได้เรียนดีมีอนาคต

“โดยมีต้นแบบจากโรงเรียนชัยพัฒนาบุรีรัมย์ ที่ตนได้ศึกษามา เพื่อนำมาพัฒนาและสร้างเด็กในอยุธยาให้เป็นเด็กที่มีคุณภาพ เพื่อมาช่วยกันพัฒนาและสร้างอยุธยาให้เป็นแหล่งท่อง และสร้างรายได้ให้กับจังหวัด” นายกอุ๊ กล่าว
สำหรับ นโยบายที่ 4 เป็นเรื่องเกี่ยวกับด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน ซึ่งต้องดีและมีคุณภาพ โดยน้ำประปาต้องมีอย่างทั่วถึงและต้องรองรับการขยานตัวของเมือง พร้อมทั่วต้องสนับสนุนการกระจายอำนาจของเทศบาล และอบต. โดย นโยบายที่ 5 นั้น มุ่งเน้นที่เกษตร กร โดยระบบชลประทานต้องมีตลอดไม่ให้ขาดแคลน ควบคู่ไปกับการจัดหาระบบสูบน้ำโซลาเซลล์ ส่วนสินค้าเกษตร อุตสาหกรรม OTOP SME ต้องมีตลาดมารองรับสินค้า เช่นการจัดเกษตรแฟร์ การพัฒนาแปรรูปสินค้าเกษตร OTOP SME ของดีอยธุยา และสนับสนุนนิคมอุตสาหกรรม

นายกอุ๊ ยังนำเสนอนโยบายที่ 6 ด้านคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นการขยะในบางบาล และลดPM 2.5 พร้อมทั้งสร้าง มุ่งสร้างอยุธยาให้เป็นเมืองสีเขียว หรือ Green City กาาสร้างสวนสาธารณะใน 16 อำเภอ และสร้างบ้านให้น้องหมาน้องแมว
นายกอุ๊ กล่าวต่อว่า อยุธยามักจะเกิดปัญหาน้ำท่วมสิ่งนี้ จึงเป็นนโยบายที่ 7 ที่ตนจะเร่งแก้ปัญหาน้ำท่วมในอยุธยา รวมถึงการเยียวยาเร่งด่วนสำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม ส่วนนโยบายที่ 8 ต้องการให้วัฒนธรรมนำเศรษฐกิจ เช่น ตลาดฮาลาล โรงงานฮาลาลสู่สากล ถนนสายพหุวัฒนธรรมพุทธคริสต์อิสลาม นโยบายที่ 9 ซึ่งเป้าหมายสำคัญที่ต้องการสร้างให้อยุธยา เป็นเมือง MICE & SPOTS CITY เพื่อรอง EVENT รวมถึงรองรับเทศกาลต่างๆ เช่น ลอยกระทง สงกรานต์ เข้าพรรษา การประกวดนางงาม นายแบบ และLGBTQ อีกทั้งรองรับงานท่องราตรีกรุงศรีอยธุยา การแข่งขันกีฬาทุกระดับ และมวยไทย ไก่ชน เทศกาลดนตรีระดับโลก อยุธยา Fest และเทศกาลของดี 16 อำเภอ

สำหรับนโยบายที่ 10 นายกอุ๊ ต้องการสร้างอยุธยาให้เป็น Land Mark อีกทั้งยังเป็นจุด Rest Area ขาเข้ากรุงเทพฯ สายเอเซีย และฝั่งเส้นสุพรรณบุรี และนโยบายที่ 11 นายกอุ๊ จะ พัฒนาอยุธยา ให้เป็นเกาะที่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยการปรับทัศนียภาพคลองท่อ คลองมะขาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดด้วยน้ำใสสะอาด พร้อมติดตั้งไฟแสงสีสุ่มไก่ทุกพื้นที่ ถนนทุกสายในอยุธยาต้องไม่เป็นหลุมบ่อ
“ทั้ง 11 นโยบาย ที่ผมนำเสนอมานี้ ถ้านำมาใช้พัฒนา จะสามารถ ”เปลี่ยนอยุธยา…ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญระดับประเทศ และสามารถสร้างรายได้กระจายถึงชุมชนและมีความยั่งยื”นายกอุ๊กล่าว