
เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ศูนย์ประชุมมณฑาทิพย์ฮอลล์ อ.เมือง จ.อุดรธานี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ,นายวิทยา แก้วภราดรัย รองหน้าหน้าพรรค พร้อมด้วยผู้บริหารพรรค เดินทางพบปะผู้สนับสนุนพร้อมร่วมประชุมชี้แจงนโยบายและแนวทางการทำงานของพรรคกับผู้แสดงความจำนงที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมีสมาชิกพรรคและผู้สนับสนุนโดยเฉพาะภาคอีสานตอนบน ทั้ง อุดรธานี ,ร้อยเอ็ด,หนองคาย,สกลนคร,กาฬสินธุ์ และ จ.มุกดาหาร รวมทั้งนางรัตนาวรรณ สุขศาลา อดีตประธาน นปช. อุดร สมาชิก นปช. นางบุญญาพร นาตะธนภัทร ส.ส.พลังชาติไทย มาสังเกตการณ์ด้วย โดยผู้สนับสนุนต่างสวมเสื้อโลโก้พรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้งสีน้ำเงินและสีแดง มารวมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง
นายพีระพันธุ์ ได้ขึ้นกล่าวกับผู้สนับสนุนว่า ตนเคยมาอีสานหลายครั้งแต่ไม่ได้มาเรื่องการเมืองเพราะตั้งแต่เด็กก็ไม่เคยคิดเป็นนักการเมืองแต่ได้รับการปลูกฝังเรื่องความเป็นธรรม และเชื่อว่าประชาชนจำนวนมากยังคงมีปัญหาความเดือดร้อน ไม่ได้รับความยุติธรรมทั้งที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะปัญหาหนี้สิน ปัญหาเรื่องที่ทำกิน และอยากทำพรรคที่สู้เพื่อประชาชน จนกระทั่งเกิดเป็นพรรครวมไทยสร้างชาตินี้ขึ้นมา ซึ่งตนเชื่อว่าในใจของทุกคนต้องการเห็นชาติบ้านเมืองดีขึ้นเหมือนกัน แต่กลับถูกแบ่งสีให้ต่างกันทั้งที่เป็นคนไทยเหมือนกัน ดังนั้นตอนนี้จึงถึงเวลาแล้วที่จะเลิกแบ่งสี แต่ควรรวมใจกันมาพัฒนาบ้านเมืองให้ไปสู่เป้าหมายเดียวคือการพัฒนาชาติบ้านเมืองต่อไป

นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนได้รับรู้ปัญหาสำคัญของประชาชนนั้นคือเรื่องของหนี้กองทุนหมู่บ้าน ซึ่งเห็นว่าเป็นปัญหาสำคัญที่จะต้องหาแนวทางแก้ไขความเดือดร้อนนี้ ตอนนี้ทางพรรคได้ทำการศึกษารายละเอียดเรื่องนี้แล้วและเตรียมที่จะแก้ไขปัญหา โดยจะต้องดูเรื่องของขอบเขตและแนวทางกฎหมายให้รอบคอบ เพื่อปลดหนี้กองทุนหมู่บ้านให้กับผู้ที่กำลังเดือดร้อนอยู่ในทุกวันนี้และไม่เพียงแต่อีสาน แต่ยังพบว่ามีอยู่ทุกที แนวทางสำคัญคือนอกจากจะปลดหนี้แล้ว ทางพรรคยังมีแนวทางที่จะสร้างกองทุนใหม่ที่มีความยั่งยืน ขึ้นมาทดแทนอีกด้วย
“ทั้งหมดนี้พรรครวมไทยสร้างชาติ จะศึกษารายละเอียดที่จะปลดหนี้ให้กับประชาชน เพราะผมเข้าใจเรื่องระบบบัญชีที่ต้องแบกหนี้เพื่อปิดบัญชี ทำให้เป็นหนี้ไม่สิ้นสุด ตอนนี้เรากำลังหาข้อมูลรายละเอียดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไป” นายพีระพันธุ์กล่าว

นายพีระพันธุ์ ให้สัมภาษณ์ว่า การเดินทางมา จ.อุดรธานี ในครั้งนี้ ตนพูดมาตลอดว่าเป้าหมายสำคัญคือหวังการเลิกการทะเลาะกันจากสีเสื้อทุกฝ่าย ทั้งแดง ทั้งเหลือง เพราะทุกคนมีเป้าหมายเหมือนกัน คือการพัฒนาชาติบ้านเมือง ดังนั้นควรเอาความสามารถมาแก้ดีกว่า เหมือนที่ตนพูดบนเวที ทั้งนี้ไม่ได้มองเรื่องว่าจะไปเจาะไข่แดงอะไร โดยเฉพาะอีสาน แต่มองเพียงเรื่องความสามัคคี ต้องการให้เข้าใจกันไม่ว่าจะเป็นสีใด แต่ทุกคนคือคนไทย ตนไม่อยากให้ใช้คำว่าดึงใครมาร่วมงาน เพราะทุกคนมีแนวทางเป็นของตัวเอง วิธีการอาจจะต่างกันแต่เป้าหมายเหมือนกันก็สามารถทำงานด้วยได้ โดยที่ผ่านมานายวิทยา รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ประสานงานกับแกนนำใน จ.อุดรธานีจากมา 5-6 เดือน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีนักการเมือง อดีต ส.ส.หรือ ส.ส.มีร่วมงานด้วยหรือไม่ นายพีระพันธุ์ตอบว่า ตอนแรกยังคิดว่าจะมีหรือไม่แต่ตอนนี้ทราบว่ามีจำนวนมากจนล้น ซึ่งไม่เกี่ยวกับข่าวของนายกรัฐมนตรี แต่เป็นการประสานงานมาก่อนจะเปิดตัวพรรคมานานแล้ว ส่วนที่มีข่าวว่านายกฯ จะตั้งให้ตนเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีนั้น ตอนนี้ตนไม่รู้ เพราะมีความสุขกับการทำงานอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเพิ่งได้เจอท่านนายกฯ ก็แค่ถามความเห็นเรื่องกฎหมายเรื่องศาลรัฐธรรมนูญมีความเห็นมา ส่วนเรื่องอื่นไม่ได้มีพูดอะไรกันเลย ซึ่งหากจะได้รับการแต่งตั้งเป็นอะไรก็ทำงานได้ทั้งหมด แม้ไม่มีตำแหน่งก็ทำได้ทั้งหมดอยู่แล้ว

“ส่วนเรื่องเทียบเชิญ ไม่กล้าที่จะทำหากท่านยังไม่พูด แต่การตัดสินใจเป็นอย่างไรไม่รู้ ต้องรอเพราะท่านเป็นผู้บังคับบัญชา เห็นว่าไม่ว่าท่านจะมาหรือไม่มาก็ไม่ได้กระทบพรรค เพราะพรรคมีเป้าหมายอยู่แล้วในการทำงานไม่ได้มองว่าใครจะมาหรือไป พรรคนี้ตั้งใจมาทำงานด้วยตัวเองและอยากปักธงที่นี่” นายพีระพันธุ์ กล่าว
ด้านนายวิทยา กล่าวว่า ที่ผ่านมาการแบ่งแยกแบ่งสี ทำให้ตนในฐานะเป็นแกนนำ กปปส.ทีทำให้ที่ผ่านมาไม่เคยได้มีโอกาสมาพูดคุยกับพี่น้องชาวอุดรฯเลย แต่เมื่อได้ตั้งใจจะสร้างพรรคใหม่ร่วมกับนายพีระพันธุ์ และนายพีระพันธุ์ก็มีความหวังที่จะสร้างความสามัคคีปรองดองของคนไทยทุกฝ่ายมาร่วมกันพัฒนาชาติตามนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติ จึงได้รับปากว่าจะประสานงานพูดคุยกับทุกฝ่าย จนในที่สุดได้มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็น นักการเมืองในพื้นที่,แกนนำ นปช. รวมไปถึงพี่น้องประชาชนชาวอุดรฯ และชาวอีสานอีกหลายคนจึงทำให้เห็นว่า แม้ในอดีตแนวทางการทำงานจะแตกต่างกันแต่ทุกคนมีความมุ่งหมายเดียวกันคือต้องการให้ชาติ และบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าเหมือนกัน ในที่สุดก็ตกลงร่วมกันว่าจะจับมือกันเพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศไทย รักษาสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และสร้างนักการเมืองที่ดี มีความซื่อสัตย์ไปด้วยกัน

“พรรคนี้ชื่อรวมไทยสร้างชาติ คือการรวมทุกฝ่ายทุกคนเพื่อสร้างชาติของเรา เราจะหลอมรวมจิตใจก้าวไปข้างหน้า ขอบคุณพี่น้องอีสานทุกคนที่สนับสนุน ตอนนี้ทราบว่าใน จ.อุดรธานี ทั้ง 9 เขต มีผู้เสนอตัวเข้ามาทำงานและลงสมัครแล้ว เกือบ 20 คนมีทั้งอดีต ส.ส. สจ. แกนนำ นปช. ถือว่ามากที่สุดในประวัติการณ์ วันนี้จึงเป็นวันเริ่มต้นที่คนทุกสีเสื้อที่จะมารวมตัวกัน รวมใจกันเป็นรวมไทยสร้างชาติ เพื่อพัฒนาชาติบ้านเมืองร่วมกันต่อไป” นายวิทยากล่าว