
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมความคืบหน้าหลังระดับน้ำโขงลดลง นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม ได้มอบหมายให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง ในพื้นที่ 12 อำเภอ เร่งสำรวจความเสียหาย พื้นที่การเกษตร ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่นาข้าว เพื่อให้ความช่วยเหลือชดเชยเยียวยา เกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมนาข้าวได้รับความเสียหาย ตามระเบียบราชการจะต้องได้รับความเสียหาย ไร่ละ 1,340 บาท รายละไม่เกิน 30 ไร่ พร้อมประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ทั้งจังหวัด 12 อำเภอ เพื่อให้หน่วยงานเกี่ยวข้องสามารถอนุมัติงบประมาณช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน เบื้องต้นจากการสำรวจพบว่า ยังมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ คาดว่า จะมีนาข้าวได้รับความเสียหาย ประมาณ 40,000 ไร่ หนักสุดคือ พื้นที่ อ.ศรีสงคราม เนื่องจากติดกับลำน้ำอูน และลำน้ำสงคราม ที่มีปริมาณเกินความจุ ไม่สามารถระบายลงน้ำโขงได้ทัน จึงเอ่อล้นพื้นที่การเกษตร และพื้นที่ลุ่ม
ทั้งนี้ ในส่วนของระดับน้ำโขงเริ่มพ้นจุดวิกฤติลดระดับลงวันละประมาณ 40 -50 เซนติเมตร ล่าสุดอยู่ที่ระดับประมาณ 9 เมตร ห่างจากจุดวิกฤติ ประมาณ 3 เมตร คือที่ 12 เมตร ส่งผลให้ลำน้ำสาขาสายหลัก ลำน้ำก่ำ ลำน้ำบัง ลำน้ำอูน และลำน้ำสงคราม เริ่มระบายลงน้ำโขงได้เร็ว ลดความเสียหายให้กับพื้นที่นาข้าวได้มากขึ้น แต่ยังต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากยังเป็นฤดูฝน ที่มีความเสี่ยงฝนจกตกหนักซ้ำอีก และมีมวลน้ำจากภาคเหนือมาสมทบ ทางจังหวัดยังคงต้องแจ้งเตือนเฝ้าระวังต่อเนื่อง ถึงแม้น้ำโขงจะลด
ข่าว/ภาพ : พัฒนพงษ์ ศรีเพียชัย ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครพนม