
เมื่อวันที่ 23 เมษายน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต สนับสนุนนายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดภูเก็ต เขต 3 พรรคก้าวไกล โดยพบปะ กับประชาชนชาวอำเภอถลางที่ได้รับความเดือดร้อน กรณีชาวบ้านที่ทำกินและปลูกผลอาสินในพื้นที่สวนป่าบางขนุน ได้รับผลกระทบจากการที่กองทัพเรือได้รับอนุญาตให้เข้าใช้ประโยชน์พื้นที่ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าบางขนุนตำบลเทพกระษัตรี และตำบลสาคู อำเภอถลางจังหวัดภูเก็ต โดยมี ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอถลาง เข้าร่วม รับฟังพบปะกันในครั้งนี้ ประมาณ 200 คน ณ มัสยิดดารุ้ลอาบีดีน บางม่าเหลา ตำบลสาคู อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
นายธนาธร กล่าวว่า ปัญหาป่าที่ดินทำกินที่เกี่ยวข้องกับกองทัพ ที่เข้ามาเกี่ยวกับป่าเห็นได้ชัดมากที่สุดคือ หลังการทำรัฐประหาร จะเห็นว่ามีโครงการทวงคืนผืนป่า เรื่องนี้เราต้องการพรรคการเมืองที่กล้าชนกับกองทัพ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ที่ผ่านมาเชื่อว่าพรรคอนาคตใหม่เดิม พรรคก้าวไกลปัจจุบัน ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเรา ถ้าต้องต่อสู้เรื่องความถูกต้องก็พร้อมที่จะยืนเคียงข้างประชาชนไม่กลัว หน้าอินทร์ หน้าพรหมที่ไหน แสดงให้เห็นแล้วว่า ถ้าต้องต่อสู้เพื่อความถูกต้อง เรื่องต่างๆเรื่องอิทธิพล เราไม่เกรงกลัว
ทั้งนี้ วันนี้ไม่อยากรับปาก เพราะว่ายังไม่มีส.ส.แต่ถ้าหลังเลือกตั้งไปแล้ว พรรคก้าวไกลได้มีโอกาสเป็นรัฐบาลหรือแม้แต่เป็นฝ่ายค้านก็ตาม ก็จะมีอำนาจมีกลไกของสภาผู้แทนราษฎร ที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาได้ ในเรื่องนี้ไม่ขอพูดเยอะ ไม่ว่า ผู้สมัคร ส.สจะได้เป็นหรือไม่ก็จะเข้ามาต่อสู้ในเรื่องนี้ ให้กับประชาชน แต่ขอให้ได้เป็นน่าจะดีกว่า
สำหรับ การปฏิรูปกองทัพและการกระจายอำนาจ พรรคก้าวไกล เห็นว่าจำเป็นต้องมีการปฏิรูปกองทัพ ซึ่งหนึ่งในหัวข้อที่เสนอบ่อยคือการยกเลิกการเกณฑ์ทหารแบบบังคับ เราไม่ได้ยกเลิกกองทัพ อย่าไปบิดเบือน ไม่เคยพูดว่ายกเลิกกองทัพ เรายกเลิกการเกณฑ์ทหารแบบบังคับให้อาชีพทหารเป็นอาชีพเหมือนครู พยาบาล คือ ชายไทยอายุ 18 ปีถึง 45 ปี ใครอยากเป็นทหารไปสมัครเลย เป็นอาชีพเหมือนครู พยาบาลสมัครแล้ว เต็มใจพร้อมที่จะไปรบพร้อมที่จะป้องกันประเทศมากกว่า คนที่ถูกบังคับถูกเกณฑ์ไป เมื่อเข้าไปแล้ว เป็นอาชีพก็จะอยู่นาน ร่างกายได้ฝึกได้เข้มแข็ง ยิงปืนแม่นพร้อมใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ตลอดเวลา พร้อมปกป้องประเทศตลอดเวลา จะทำให้กองทัพมั่นคง ลดจำนวนนายพล
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยวันนี้ มีจำนวนนายพลมากกว่าประเทศสหรัฐอเมริกา กองทัพอเมริกาเป็นกองทัพที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรที่สุดในโลกจำนวนนายพลของเขา ยังไม่เท่ากับจำนวนนายพลในประเทศไทย ประเทศไทยมีนายพลเยอะกว่าประเทศสหรัญอเมริกา สิ่งต่างๆเหล่านี้จะต้องมีการปฏิรูปกันเพื่อให้กองทัพ กลับเข้ามาอยู่ในทิศทางที่เหมาะที่ควรจะเป็นนั่นก็คือกองทัพอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือนไม่ใช่รัฐอิสระแยกไปดูแลตัวเอง
อีกเรื่องหนึ่งคือ การกระจายอำนาจ ตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่มาถึงก้าวไกล รณรงค์ในเรื่องของการกระจายอำนาจปฏิรูประบบราชการลดการรวมศูนย์ที่ส่วนกลางลดการรวมงบประมาณที่เมืองหลวงเพื่อให้แต่ละจังหวัดได้กำหนดอนาคตของตัวเองได้เพื่อให้แต่ละองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีงบประมาณเพียงพอที่จะมาดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเรื่องนี้ การปฏิรูประบบราชการลดการรวมศูนย์ ให้แต่ละจังหวัดแต่ละองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีโอกาสในการผลักดันพื้นที่ตัวเอง
ประเทศไทย มี 77 จังหวัด กว่า 7,000 ตำบล บางตำบลติดชายหาดมีปัญหา บางตำบลเป็นพื้นที่ป่าเขาบางตำบลเป็นพื้นที่เกษตรกรรม บางที่เป็นอุตสาหกรรม ในโรงงานแปรรูปและ ผลิตรถยนต์ บางพื้นที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว เป็นพื้นที่พาณิชย์แต่ละตำบลไม่เหมือนกัน ผู้คนไม่เหมือนกัน ต่างมีอัตลักษณ์ของตัวเอง แต่สิ่งที่เกิดขึ้น คือไปออกกฎระเบียบแบบเดียวกัน บังคับใช้ ทั่วทุกพื้นที่ ถามว่าเหมาะสมหรือไม่ และการเปิดปิดผับบาร์แต่ละที่ก็ไม่เหมือนกันถ้าเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่ต้องการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติควรจะเปิดปิดให้ดึกหน่อยถ้าเป็นพื้นที่ที่ต้องการความเงียบสงบก็ปิดเร็วหน่อย ให้ชาวบ้านในพื้นที่เขาคุยกันเอง ไม่ต้องมีกฎระเบียบเดียวบังคับใช้กันทั่วทุกพื้นที่ เหมือนอย่างนี้
สำหรับ ข้าราชการ อาทิ ผู้ว่าฯภูเก็ต ขึ้นกับกระทรวงมหาดไทย เอานโยบายจากส่วนกลางลงมา ทำในพื้นที่ ดังนั้นการกระจายอำนาจที่พวกเราเสนอหรือเอาอำนาจและงบประมาณที่อยู่ข้างบนดึงลงมา ให้ใกล้ชิดกับประชาชนที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้มีอำนาจและงบประมาณเพียงพอ ที่จะผลักดันความเจริญก้าวหน้าในพื้นที่ของตัวเอง
ข่าว/ภาพ : อชัถยา ชื่นนิรันดร์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดภูเก็ต