ทิ้งซากวัตถุโบราณอายุกว่า 1 พันปีข้างกองขยะที่วัดพระมหาธาตุฯเมืองคอน

เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มีกองหินเก่าแก่ที่ถูกนำไปทิ้งไว้ที่จุดทิ้งขยะหลังวิหารพระด้านหลังองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ที่รอเจ้าหน้าที่เก็บขยะของเทศบาลนครนครศรีธรรมราชมาเก็บไปทิ้ง โดยกองหินดังกล่าวมีนายสุรเชษฐ์ แก้วสกุล นักวิชาการประวัติศาสตร์ศิลป์ ได้บันทึกภาพเผยแพร่ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า “หินแกรนิตนี้จะใช้ในส่วนกรอบประตูกับทับหลังประตู นิยมมากในสมัยตามพรลิงค์ช่วงหลังในราว พ.ศ.1,700-1,800” 

เป็นพีเรียตเดียวกับองค์พระบรมธาตุที่เห็นในปัจจุบัน และสันนิษฐานน่าจะเป็นโครงสร้างของวิหารสักหลังในเขตวัดเมื่อ 700 ปีก่อนที่มีรูปแบบสัมพันธ์กับสถาปัตย์ลังกา แม้ว่าจะดูไม่มีลวดลายอะไร แต่มีคุณค่าสูงมากในทางประวัติศาสตร์ พร้อมกันนั้นยังส่งข่าวให้ช่วยแจ้งผู้ที่รื้อนำมากองทิ้งให้ทราบ เพื่อที่จะช่วยกันเคลื่อนย้ายกลับไปวางให้ถูกที่ถูกทาง 

โดยชิ้นหินแกรนิตนี้พบว่าบางชิ้นมีการแกะสลักคล้ายลักษณะ “สลักเดือย” ยึดกับฐานหรือสิ่งปลูกสร้างสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของนักวิชาการ ขณะเดียวกันบางชิ้นยังมีร่องรอยของการแกสลักลวดลายบางอย่าง แต่ลางเลือนไปมากแล้ว ผู้พบเห็นหลายคนยืนยันว่าเคยวางอยู่บริเวณมุมองค์เจดีย์ราย ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ แต่เดิมจุดนั้นเคยมีสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่แต่ปรักหักพังไปนานมากแล้ว สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นโครงสร้างในจุดดังกล่าว 

ด้าน นายเฉลิม จิตรามาศ ประชาสัมพันธ์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ระบุว่า การเข้าไปเคลื่อนย้ายชุดหินโบราณนี้ออกมาเข้าใจว่าเป็นการดำเนินการของผู้ที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มจิตอาสามรดกโลก ที่เข้ามาปรับปรุงในบริเวณวัด สำหรับปัญหาในขณะนี้คือต้องนำเรียนให้พระธรรมวชิรากร เจ้าอาวาสทราบ เพื่อพิจารณาสั่งการ ที่ผ่านมาท่านยังไม่น่าจะทราบสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามความเป็นมรดกโลกนั้นเกี่ยวข้อกับทุกส่วน ควรจัดให้อยู่ในที่ที่เหมาะสม

ข่าว/ภาพ : นุชจรี แรกรุ่น ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช

Message us