ทหารไทยรับตัวเหยื่อค้ามนุษย์ชาวต่างชาติ 260 คนกลับจากฝั่งเมียนมา

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ หรือ ผู้การติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ซึ่งดูแลพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา 5 อำเภอชายแดน จังหวัดตาก (แม่สอด-ท่าสองยาง-พบพระ-อุ้มผาง-แม่ระมาด) พร้อมกำลังทหารได้นำรถมารอรับตัวเหยื่อการค้ามนุษย์ 261 คน ที่ทางกองกำลัง D.K.B.A. ช่วยเหลือและส่งตัวมาในช่วงบ่ายวันนี้

พ.อ.ณัฐกร กล่าวว่า วันนี้เราเตรียมรถมาเพียงพอกับเหยื่อ เป็นรถบรรทุก 10 คัน และรถคุ้มกันอีก 8 คัน ตัวเลขขั้นต้นมี 260 คน แต่ต้องรอการยืนยันอีกครั้ง หลังจากหน่วยเฉพาะกิจราชมนูรับตัวแล้ว จะนำตัวไปส่งยังที่ว่าการอำเภอพบพระ ซึ่งได้ประสานนายอำเภอ และผู้กำกับสภ.พบพระ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว ถือเป็นการตรวจสอบขั้นต้น และหลังจากนั้นจะนำไปคัดกรองที่กองร้อย ตชด. ที่อำเภอแม่สอด และดำเนินการตามขั้นตอน NRM ต่อไป

พ.อ.ณัฐกร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ ถือว่ามาตรการที่รัฐบาลได้ดำเนินการ ทั้งการตัดไฟ งดส่งน้ำมัน ตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต ถือว่าได้ผล เพราะเป็นผลกระทบโดยตรงต่อกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ แต่เข้าใจว่า บางส่วนอาจจะกระทบกับพี่น้องประชาชนทั้งสองฝ่าย แต่ต้องขอให้เข้าใจรัฐบาล และเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าอยู่ในช่วงที่ทุกคนต้องเสียสละ เพื่อให้การแก้ไขปัญหานี้มันสำเร็จ

“ถ้าครั้งนี้เราทำไม่สำเร็จ ผมมองว่าไม่มีครั้งไหนที่จะทำสำเร็จแล้ว ครั้งนี้ต้องเดินหน้าเต็มร้อย เพื่อทำให้สำเร็จให้ได้ ส่วนการปล่อยตัวเหยื่อในครั้งนี้ เป็นเพราะเขาไม่สามารถทำต่อได้ หากเป็นบริษัทเล็ก ๆ จะย้ายฐานการผลิตไปเลย แต่ถ้าเป็นบริษัทใหญ่จะลดระดับเหลือ 50% แต่หากยืดระยะในมาตรการนี้ไปอีก ผมคิดว่าพวกเขาจะอยู่ไม่ได้อยู่แล้ว เชื่อว่า หลังจากนี้น่าจะมีการปล่อยตัวในล็อตต่อไป ส่วนการดูแลความปลอดภัยของเหยื่อ เรากับทางกองกำลังฝั่งเมียนมา ไม่ได้เป็นศัตรูกัน เรายึดเรื่องความปลอดภัยเป็นประเด็นหลัก” ผบ.ฉก.ราชมนู กล่าว

พ.อ.ณัฐกร กล่าวถึงเรื่องการตรวจจับการลักลอบขนส่งสินค้าต้องห้ามไปยังฝั่งเมียนมา ว่า เป็นการส่งในรายย่อย เพราะฝั่งตรงข้ามต้องการน้ำมัน และมีราคาสูง จะมีการลักลอบเราจับได้ทุกวัน ทั้งน้ำมันที่เป็นถังเล็ก ๆ และโซลาร์เซลล์ต่างๆ ส่วนการเข้าตรวจสอบชาวต่างชาติพักเกินเวลา โดยเมื่อวานนี้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วพบ 22 รายที่อยู่เกินเวลา ก็นำเข้าสู่การดำเนินคดีต่อไป และในสถานการณ์แบบนี้ คาดว่า ยังคงมีอยู่อีกหลายคน

สำหรับ การวางมาตรการตามแนวชายแดนนั้น ทางผู้บัญชาการทหารบก ให้เพิ่มกำลังทหารแล้ว เพื่อการปฏิบัติการ และแก้ไขปัญหา ส่วนแนวโน้มที่จะมีคนจากฝั่งเมียนมาทะลักมายังฝั่งไทยนั้น ก็เป็นผลจากมาตรการที่เราใช้ และได้ผลกับปัญหานี้

สำหรับ การดำเนินการรับตัวบุคคลต่างชาติ จำนวน 260 ราย(ชาย.221 คน / หญิง.39 คน ) จาก 20 สัญชาติ โดยทางฝ่ายเมียนมา และ กองกำลัง .DKBA ส่งมอบบริเวณท่าข้ามสินค้าหมายเลข 28 ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก ประกอบด้วย
1.สัญชาติ ฟิลิปปินส์ จำนวน 16 ราย
2.สัญชาติ เคนยา จำนวน 23 ราย
3. สัญชาติ แทนซาเนีย จำนวน 1 ราย
4. สัญชาติ บลาซิล จำนวน 2 ราย
5. สัญชาติ เอธิโอเปีย จำนวน 138 ราย
6. สัญชาติ ปากีสถาน จำนวน 12 ราย
7. สัญชาติ บังกลาเทศ จำนวน 2 ราย
8. สัญชาติ เนปาล จำนวน 7 ราย
9. สัญชาติ กัมพูชา จำนวน 1 ราย
10. สัญชาติ ศรีลังกา จำนวน 1 ราย
11. สัญชาติ ยูกันดา จำนวน 6 ราย
12. สัญชาติ ไต้หวัน จำนวน 7 ราย
13. สัญชาติ ลาว จำนวน 6 ราย
14. สัญชาติ อินโดเนเซีย จำนวน 8 ราย
15. สัญชาติ บุรุนดี จำนวน 2 ราย
16. สัญชาติ ไนจีเรีย จำนวน 1 ราย
17. สัญชาติ กานา จำนวน 1 ราย
18. สัญชาติ อินเดีย จำนวน 1 ราย
19. สัญชาติ มาเลเซีย จำนวน 15 ราย
20. สัญชาติ จีน จำนวน 10 ราย

ข่าว/ภาพ : อัศวิน พินิจวงษ์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดตาก

Message us