น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ถนนสายวัฒนธรรมสูงเนิน ประจำปี 2567” จัดโดย เทศบาลตำบลสูงเนิน งานนี้มีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูและสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่น ส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ณ ชุมชนบ้านหันสามัคคี (วัดใหญ่สูงเนิน) จังหวัดนครราชสีมา
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวในพิธีเปิดว่า งานถนนสายวัฒนธรรมสูงเนินครั้งนี้ แสดงถึงความงดงามของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวสูงเนิน นอกจากจะช่วยฟื้นฟูและรักษามรดกทางวัฒนธรรมแล้ว ยังสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน หวังว่างานนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างชื่อเสียงให้กับอำเภอสูงเนินและจังหวัดนครราชสีมาในระดับประเทศ ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมแรงร่วมใจทำให้งานนี้สำเร็จอย่างงดงาม
ดร.ถวิลวดี บุรีกุล รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวถึงแนวทาง “การยกระดับวัฒนธรรมชุมชนสู่มรดกวัฒนธรรมแห่งชาติ” โดยเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นและการต่อยอดวัฒนธรรมพื้นบ้านให้กลายเป็นสมบัติอันทรงคุณค่าของประเทศ ตลอดจนเป็นฐานสำคัญในการสร้างเอกลักษณ์และความภาคภูมิใจในระดับสากล
สำหรับ งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-27 ธันวาคม 2567 ภายใต้ธีม “ใส่ผ้าเงี่ยงนางดำ เยือนถิ่นสูงเนิน” เพื่อแสดงอัตลักษณ์ของชาวสูงเนิน โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ดร.ณัฐจิรา อิ่มวิเศษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา เขต 4 และนายณัฐกาล สุวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลสูงเนิน พร้อมด้วยประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ในพิธีเปิดงานมีการแสดงไฮไลต์ 2 ชุด ได้แก่ 1.“ฟ้อนลาว รฤก เล่าขานบ้านสูงเนิน” การแสดงนาฏยชุมชนที่เล่าถึงประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต และประเพณีของชาวสูงเนิน 2.”การแสดงโปงลาง” ที่สร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษและจัดแสดงครั้งแรกในงานนี้ สื่อถึงความงามและความสามารถของสาวงามจาก 11 ตำบลในอำเภอสูงเนิน ซึ่งการแสดงทั้งสองชุดนี้มีผู้ร่วมแสดงกว่า 300 คน ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีจากประชาชนในพื้นที่
นอกจากนั้น ภายในงานยังมีกิจกรรมหลากหลาย เช่น การจัดแสดงอาหารพื้นถิ่นชาวสูงเนิน ร้านค้าชุมชน นิทรรศการจากหน่วยงานราชการและสถานศึกษา การจัดงานครั้งนี้มีเป้าหมายผลักดันให้เป็นงานประจำปีสำคัญที่สร้างชื่อเสียงให้กับอำเภอสูงเนิน และยกระดับเป็นงานสำคัญของจังหวัดนครราชสีมา เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับชุมชนในอนาคตต่อไป
