
ความคืบหน้าอุบัติเหตุเรือเจ็ทสกีขับโดย นายชินดนัย แซ่ลิ้ม หรือคิวพี นักแสดงละครซีรี่ส์พุ่งชนเรือหางยาวของชาวบ้านกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เหตุเกิดในพื้นที่ตำบลบางยอ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ล่าสุดตั้งแต่ช่วงสายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง ร่วมกับ เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสมุทรปราการ เดินทางลงเรือไปตรวจสอบที่เกิดเหตุกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อหาจุดที่เกิดอุบัติเหตุ ขณะเดียวกันมีการลากเรือเจ็ทสกีและเรือหางยาวมายังท่าเรือศุภนาวาพื้นที่อำเภอพระประแดง เพื่อตรวจสอบและเก็บหลักฐานร่องรอยการชนที่เรือทั้งสองลำ โดยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บหลักฐานต่าง ๆ พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อใช้ประกอบทางสำนวนคดี

พ.ต.ท. อิศรัฐ ตันสุ สารวัตรสอบสวน สภ.พระประแดง เจ้าของคดี เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับฝ่ายใด ขณะนี้ต้องรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจหาภาพจากกล้องวงจรปิด รวมถึงข้อกฎหมายการเดินเรือและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับทางกรมเจ้าท่า เนื่องจากเกิดเหตุในแม่น้ำ จะต้องประสานข้อมูลต่างๆ จากกรมเจ้าท่าเพื่อนำมาพิจารณาทางคดีอาญาอีกครั้ง หลังจากรวบรวมพยานหลักฐานเพียงพอก็จะเชิญทั้ง 2 ฝ่ายมาสอบปากคำทั้งคนขับเรือเจ็ทสกีและผู้โดยสารเรือหางยาวที่รอดชีวิต

นายนายฉัตรชัย เวชสาร ผู้อำนวยการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ กล่าวว่า พนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง ได้นำเรือไปตรวจพิสูจน์แล้วว่าจุดเกิดเหตุมันอยู่บริเวณไหน แต่ในเบื้องต้นเรายังไม่ได้คอนเฟิร์มว่า ตรงจุดไหน ต้องรอเครื่องยนต์ของเรือหางยาวที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จะมีการพิสูจน์ให้ทราบอีกว่าอยู่ในท้องที่เกิดเหตุของของใด เพราจุดเกิดเหตุอยู่กึ่งกลางระหว่างกรุงเทพฯกับสมุทรปราการ ส่วนในทางคดีตนคิดว่าไม่ล่าช้าและจะเร่งประสานทางมูลนิธิเพื่อขอนำเครื่องเรือหางยาวขึ้นมาเพื่อจะได้พิสูจน์ให้ทราบแน่ชัด

สำหรับ แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นทางสาธารณะหากใช้เรือไม่ได้รับอนุญาตก็จะต้องมีความผิด เป็นนโยบายของทางกระทรวงคมนาคมอยู่แล้ว รวมถึงอธิบดีกรมเจ้าท่า ในเรื่องของความปลอดภัยจะต้องมีการสวมใส่เสื้อชูชีพ เรือจะต้องมีใบอนุญาต คนขับจะต้องมีใบอนุญาติ นายท้ายเรือเรามีมาตรการควบคุมและกำกับดูแลอยู่แล้ว รวมถึงท่าเรือหรือโป๊ะก็ต้องมีความปลอดภัย มีมาตรการออกตรวจปราบปราม มีการประชาสัมพันธ์ให้สวมชูชีพ หากขับเรือโดยไม่มีใบนายท้าย จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับตั้งแต่ 1,000 ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขณะที่ นายพรทวี จันทร์ม่วง เจ้าของเรือเจ็ทสกี บอกว่า ที่พูดกันว่ามูลค่าเรือมีราคาสูงถึง 7 ล้านบาทไม่เป็นความจริง เรือลำนี้ราคาอยู่ที่ 7 แสนบาท ส่วนที่ระบุในเอกสารของกรมเจ้าท่าคาดว่าจะใส่ตัวเลขผิดพลาดไป ส่วนเรือเป็นเรือส่วนบุคคลไม่ใช่เรือสำหรับให้เช่าขับแต่อย่างใด ส่วนน้องคิวพีคือหลานชายแท้ๆ ของตนเอง ปกติแล้วจะพากันขับเรือออกในแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นประจำ และน้องเองก็มีความชำนาญมากในการขับเรือ ปกติแล้วน้องจะไม่ได้ขับเร็วแต่อย่างใด ส่วนเรือมีการจดทะเบียนและขออนุญาตจากกรมเจ้าท่าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จะมีการบังคับทำประกันภัยไว้อยู่แล้ว แต่ต้องกลับไปดูเอกสารเรื่องประกันภัยอีกครั้ง ส่วนประเด็นที่มองว่าเรือมีไฟหน้าและไฟท้ายหรือไม่นั้น ตนเองยืนยันว่าเรือมีทั้งไฟหน้าที่ค่อนข้างสว่างรวมถึงไฟท้ายเรือมีครบและใช้งานได้

ด้าน บิดา ของน้องคิวพี บอกว่า เหตุการณ์เมื่อช่วงค่ำวันเกิดเหตุ ตนมากับกลุ่มเรือที่มีน้องคิวพีมาด้วย แต่ขับมาคนละลำ ก่อนเกิดเหตุน้องคิวพีกับเพื่อนอีกลำขับออกมาจากร้านอาหารก่อน ส่วนตนและลำอื่นกำลังขับตามหลังออกมา จังหวะที่หลุดโค้งน้ำก็ชนแล้วอย่างไรก็ตามทางครอบครัวรวมถึงตัวน้องคิวพีจะเข้าไปที่งานศพเพื่อขอขมาและพูดคุยกับทางครอบครัวของผู้สูญเสียรวมถึงคนเจ็บ พร้อมที่จะเยียวยาช่วยเหลือสุดความสามารถ จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ตนเองในฐานะของพ่อคิวพี อยากฝากขอโทษทางครอบครัวของผู้เสียหาย หากเลือกได้คงไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้อย่างแน่นอน แต่มันเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
ข่าว/ภาพ : สุทธิวิทย์ ชยุตม์วรกานต์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการ
