
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ สภ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.หฤษฎ์ คำจุมพล ผกก.สส.จ.ปทุมธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงจับกุมนายฐาปนัส หรือ เบล อายุ 38 ปี ชาวจังหวัดสงขลา ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 117/2568 ลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ในข้อหา”ชิงทรัพย์

ทั้งนี้ จับได้พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีดำ-แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 2. จับกุมผู้ต้องหาพร้อมตรวจยึดทอง ได้ 4 รายการก้อนทองหนัก 4 บาท ก้อนทอง หนัก 3 บาท จำนวน 2 ก้อน สร้อยคอทองคำ 1 บาทพร้อมพระ 1องค์ (รวมทอง 11 บาท) จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ก่อนหน้าวันก่อเหตุทางด้านผู้ต้องหาได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในห้างดังย่านลำลูกกาก่อน หลังจากก่อเหตุแล้วนำรถจักรยานยนต์ไปทิ้งในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ แถวคลองหกธัญบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและสามารถตรวจยึดเอาไว้ได้

จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ปี 2558 ลักทรัพย์นายจ้าง สน.ดอนเมือง ปี 2559 ลักทรัพย์นายจ้าง สน.ดอนเมือง ปี 2559 เสพยาเสพติด สภ.เมืองสงขลา ปี 2561 เสพยาเสพติดฯ สภ.แม่จัน เชียงราย และยังพบประวัติการกระทำผิด สภ.เมืองสงขลา คดีวิ่งราวทรัพย์ จำนวน 3 คดี
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันแถลงข่าวเสร็จได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ห้างทองห้างแห่งหนึ่ง สาขาลำลูกกาคลองห้า ตำบลบึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยชี้จุดจอดรถมอเตอร์ไว้ที่บริเวณที่จอดรถใต้อาคาร ก่อนที่จะเดินไปขึ้นบันไดทางด้านทิศใต้ แล้วเดินมาอ้อมตรงเคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ก่อนเมื่อเห็นว่าปลอดคนจึงได้เดินเข้าไปชิงทองมา ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้หลบหนีไปพร้อมทั้งนำหมวกไปทิ้ง ก่อนที่จะนำรถ จยย ที่ใช้ก่อเหตุเอาไปทิ้งลงคลอง พร้อมทั้งได้ไปตัดผม เผื่อเปลี่ยนทรงผมเพราะเห็นตัวเองออกข่าวในสื่อ

พล.ต.ท.อัครเดช เปิดเผยว่า จากการกำชับข้อสั่งการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.ให้เร่งปราบปรามจับกุมผู้ก่อเหตุอาชญากรรมทุกรูปแบบ วันนี้ได้รับรายงานว่า บก.ป.ร่วม กับ บก.สส.ภ.1 ได้จับกุมผู้ต้องหา ชิงทรัพย์ ร้านทองแห่งนี้ จับกุมนาย ฐาปนัส จากการสอบสวนขยายผล ถึงทองคำ ที่ถูกประทุษร้าย จากการตรวจยึดทอง ได้จากบ้านภรรยาของนายฐาปนัส ได้ทอง จำนวน 52 เส้นนำหนักประมาณ 50 บาท ที่ อ.เมือง จ.สงขลา จับกุมผู้ต้องหาพร้อมตรวจยึดทอง ได้ 4 รายการ คือ(1.)ก้อนทองหนัก 4 บาท (2.)ก้อนทอง หนัก 3 บาท จำนวน 2 ก้อน (3.)สร้อยคอทองคำ 1 บาทพร้อมพระ 1องค์ รวมทอง 11 บาท(4.) ทองส่วนที่เหลือนำไปฝากให้นายทิวอายุ 25 ปี และนายบอย ไม่ทราบชื่อสกุล (อยู่ด้วยกันกับนายทิว) ให้การว่า ติดต่อนายทิว ทางเฟสด้วยการโทร นัดหมายที่ตลาดนัดข้างห้างแห่งหนึ่ง จากนั้นส่งทองให้นายทิวและ นายบอย ไม่ทราบชื่อสกุล คนละ 1 กำมือ ไม่รู้จำนวนเส้นและน้ำหนัก ช่วงเวลา 13.00-15.00 น. จากนั้นเดินขึ้นสะพานลอยไปฝั่งตรงข้าม ขึ้นรถแท็กซี่ไปย่านดินแดง เพื่อหลบหนีต่อไป

ด้าน พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ 1 กล่าวว่า คดีนี้เกิดเหตุมาตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. ทางผู้ต้องหาได้เข้ามาชิงทรัพย์เป็นทองจำนวน 113 บาท มูลค่า 5.4 ล้านบาท หลังจากนั้นได้ใช้ยานพาหนะ แล้วหลบหนีไป โดยใช้เวลาติดตามจับกุมตัวทั้งหมด 4 วัน ในส่วนของการสืบสวนติดตามคนร้ายเราได้บูรณาการตำรวจสืบสวนทุกฝ่ายในตำรวจภูธรภาค 1 เราไม่อยากให้คนร้ายกระทำการแบบนี้เพื่อไม่ให้ไปเกิดในที่อื่นอีกเลย กระทั่งตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้แทบจะ 100% ซึ่งการสืบสวนครั้งนี้ใช้เวลาไปเพียงแค่ 4 วัน หลังจากการจับกุมเราได้ติดตามยึดของกลางต่างๆ มาตั้งแต่วันแรกและตามยึดเป็นระยะั เมื่อเรารู้ตัวชัดเจนแล้วเราได้ปรับโหมดจากการหาตัวคนร้ายว่า คนร้ายคือใคร กระทั่งจับกุม

จากการสอบสวนปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ตัวคนร้ายเป็นคนหาดใหญ่จังหวัดสงขลา ขึ้นมาทำงานเคยมีเพื่อนอยู่ในพื้นที่อ.ลำลูกกา ก่อนลงมือดูลาดเลามาเป็นเวลา 3 วัน ดูทางเข้าออกที่สะดวก ดูร้านค้ามีพนักงานกี่คน มีรปภ. กี่คนจุดไหนบ้าง ก่อนได้เริ่มลงมือก่อเหตุ การทำงานไม่ได้เตรียมอะไรมามากหลังจากทำงานเสร็จกล้าหาช่องทางหลบหนีอย่างปลอดภัย ในเบื้องต้นตำรวจได้ยึดของกลางมาจำนวนหนึ่งและของกลางที่เหลือส่งไปให้ภรรยาที่ภาคใต้ก็สามารถยึดคืนมาได้ และมีอีกส่วนนึงที่ผู้ต้องหาอ้างว่านำไปให้เพื่อนตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามทองที่คนร้ายนำไปจำนำไปฝากเพื่อน เพื่อที่จะรวบรวมให้ได้ครบตามจำนวนต่อไป

