เมื่อวันที่ 25 พ.ค. พล.ต.ต.กำธร จันที ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเมื่อวันที่ 6 เม.ย.ได้มีชายชุดดำจำนวนนับสิบคนบุกเข้าไปใช้กำลังทำร้ายพระ ชาวบ้าน ไวยาวัจกร ของวัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลานได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายราย และได้บุกยึดครอบครองวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เจ้าอาวาสที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างถูกต้องก็ยังเข้าวัดไม่ได้มานานกว่า 1 เดือนแล้ว
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ตำรวจพิจิตร-ตำรวจภูธรภาค 6 สนธิกำลังกันสืบสวน สอบสวน จนสามารถจับผู้กระทำผิดได้จำนวน 21 คน โดยเป็นชาวบ้าน 7 คน ชายชุดดำ 14 คน นำตัวมาสืบสวนสอบและขยายผลหาผู้ที่เกี่ยวข้องที่เป็นตัวการ-ผู้ใช้จ้างวาน-ผู้สนับสนุน หรืออยู่เบื้องหลังและพบว่ายังมีชายชุดดำอีก 2 คน ที่ร่วมกระทำผิดในครั้งนั้น ซึ่งจะออกหมายจับต่อไป
พล.ต.ต.กำธร กล่าวว่า ในส่วนของ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิ ตำรวจ สภ.โพทะเลและชุดสืบสวนสอบสวนของตำรวจภูธรภาค 6 ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงพาดพิงไปถึงนายกิตติศักดิ์ ดังนั้นจึงไปขออำนาจศาลยุติธรรมจังหวัดพิจิตร เพื่อจะขอหมายจับแต่ศาลยุติธรรมจังหวัดพิจิตรพิจารณาแล้วไม่อนุมัติ แต่ให้ตำรวจไปดำเนินการออกหมายเรียก นายกิตติศักดิ์ เพื่อมาพบและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า นายกิตติศักดิ์ กระทำผิดต่อกฎหมาย
พล.ต.ต.กำธร กล่าวย้ำว่า เบื้องต้นผู้กำกับการ สภ.โพทะเลจะเสนอออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ถึงนายกิตติศักดิ์มาให้ปากคำชี้แจงข้อกล่าวหาในวันที่ 5 มิ.ย. นี้ โดยได้พบเจอนายกิตติศักดิ์ ที่มาร่วมให้การต้อนรับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มาตรวจราชการผู้ประสบเหตุวาตภัยที่โรงเรียนวัดเนินปอ อ.สามง่าม ซึ่ง พล.ต.ต.กำธร จันที ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ก็ได้แจ้งนายกิตติศักดิ์ด้วยวาจาแล้ว นายกิตติศักดิ์ ก็มิได้ตกใจหรือปฎิเสธแต่อย่างใด บอกว่าถ้าได้รับหมายเรียกก็พร้อมที่จะมาให้ปากคำ ในเบื้องต้นยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ เป็นเพียงผู้ถูกชายชุดดำที่เป็นผู้ต้องหากล่าวพาดพิงเท่านั้น
