‘ตราด-พระตะบอง-เกาะกง’จัดประชุมเชื่อมโยงศก.ท้องถิ่น

นายพีระ เอี่ยมสุนทร ปลัดจังหวัดตราด เป็นประธานเปิดการประชุม Business Matching เชื่อมโยงเศรษฐกิจท้องถิ่นสู่เศรษฐกิจชายแดนระหว่างจังหวัดตราดกับ 2 จังหวัดในกัมพูชามคือ จังหวัดพระตะบอง และจังหวัดเกาะกง โดยมี นางวิภา สุเนตร ประธานหอการค้าจังหวัดตราด นายธรา วัฒนวินิน ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตราด ตัวแทนประธานประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดตราด และ นายปอ เจีย รองประธานหอการค้าจังหวัดพระตะบอง และรองประธานหอการค้าจังหวัดเกาะกง และสมาชิกหอการค้าตราด พร้อมผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 100 คน ณ โรงแรมบ้านปู รีสอร์ทอำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด 

นางวรัญญา ถนอมพันธุ์ พาณิชย์จังหวัดตราด กล่าวว่า การจัดกิจกรรม Business Matching เชื่อมโยงเศรษฐกิจท้องถิ่นสู่เศรษฐกิจชายแดน ในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากปัจจุบันเศรษฐกิจประเทศต่าง ๆ มีความเชื่อมโยงต่อกันโดยผ่านการค้าระหว่างประเทศทำให้ทุกภาคส่วนของโลก รวมถึงประเทศอาเซียน ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยมีเหตุการณ์ที่สร้างความผันผวนและความไม่แน่นอนต่อห่วงโซ่อุปทาน และการค้าระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เช่น ความขัดแยังด้านภูมิรัฐศาสตร์ หรือการถูกดิสรัปท์ (disrupted) จากสถานการณ์โรคร้าย และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป จึงมีความจำเป็นในการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อภาวะดังกล่าว ร่วมกัน

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ โควิด-19 ทำให้การพบปะระหว่างภาคเอกชน จากประเทศไทย และกัมพูชาเป็นไปได้ยาก จึงเป็นโอกาสที่ดีในการจัดกิจกรรม Business Matching เชื่อมโยงเศรษฐกิจท้องถิ่นสู่เศรษฐกิจชายแดน เพื่อขยายโอกาสทางการตลาดให้ผู้ประกอบการทั้งสองประเทศและดึงดูดการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจังหวัดตราดและจังหวัดพระตะบอง และจังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา โดยกิจกรรมประกอบด้วย 1.ประชุมหารือด้านความร่วมมือการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยว 2. เจรจาจับคู่ธุรกิจโดยมีการจัดแสดงสินค้าของผู้ประกอบการท้องถิ่น 3. การเยี่ยมชม สถานประกอบการของผู้ประกอบการในจังหวัดตราด

หลังจากนั้น ทั้งสองฝ่ายได้นำเสนอความต้องการระหว่างกัน โดยนางวิภา สุเนตร ได้เสนอให้ทางฝั่งกัมพูชาอนุญาตให้ชาวตราดได้ใช้บัตรประชาชนใบเดียวสามารถเดินทางเข้าจังหวัดพระตะบอง และจังหวัดเกาะกงได้ และให้ชาวกัมพูชาทั้งสองจังหวัดเดินทางเข้าจังหวัดตราดได้ด้วยการใช้บอเดอร์พาส จะช่วงส่งเสริมการค้า การท่องเที่ยวระหว่าง 2 จังหวัดในกัมพูชา และจังหวัดตราดได้เป็นอย่างดี และการขนส่งสินค้าเข้าฝั่งกัมพูชาที่ปัจจุบันมีขั้นตอนยุ่งยาก จึงขอให้ลดขั้นตอนลงเพื่อความสะดวกทั้งสองฝ่าย ซึ่งทางฝั่งกัมพูชารับว่าจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับทางรัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศเพื่อให้ดำเนินการในเรื่องนี้ 

ขณะที่ นายธรา วัฒนวินิน ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตราด เสนอว่า ทางสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตราด มีนโยบายในเรื่องการพัฒนาอุตสหกรรมเชิงเกษตรและประมง จังหวัดตราดมีศักยภาพมาก ขณะเดียวกันทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยก็มีแนวทางในการยกระดับและพัฒนาอุตสาหกรรมสะอาด ตามทิศทางการทำอุตสาหกรรมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หากทางกัมพูชาต้องการหรือสนใจการทำอุตสาหกรรมในแนวทางนี้ ทางสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตราดพร้อมให้คำแนะนำหรือเข้าไปสนับสนุนในการพัฒนาได้ ซึ่งพร้อมจะเข้าดำเนินการให้ 

ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาได้รับความต้องการของจังหวัดตราดและได้เสนอความต้องการของภาคเอกชนของจังหวัดพระตะบองและจังหวัดเกาะกง ใน 3 ประเด็น คือ การขอนำสินค้าการเกษตรกรรม โดยเฉพาะ ทุเรียนจากกัมพูชา(พระตะบอง)เข้ามาทางจุดผ่อนปรนการค้าบ้านมะม่วง อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด และการขนส่งวัสดุก่อสร้างเข้าไปยังกัมพูชา และการนำผู้ป่วยเข้ามารักษาในฝั่งจังหวัดตราด โดยขอนำเข้ามาทางฝั่งจังหวัดตราด เป็นต้น

หลังจากนั้น ทั้งสองฝ่ายได้เซ็นเอ็มโอยูต่อกัน โดยฝ่ายหอการค้าพระตะบอง นำโดยนายปอ เจีย และนางวิภา สุเนตร ได้ลงนามร่วมกันโดยฝั่งจังหวัดพระตะบองได้สั่งซื้อสินค้าอาหารทะเลแช่แข็งจากจังหวัดตราดเป็นมูลค่า 6 ล้านบาท/ปี เป็นการเริ่มต้น ซึ่งนางวิภา กล่าวว่า นับเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่ทั้งสองจังหวัดได้ริเริ่มการค้าระหว่างกัน ซึ่งในเดือนหน้าทางหอการค้าจังหวัดตราดจะเดินทางเข้าไปเพื่อสำรวจตลาดและสถานที่ในการจัดบูทสินค้าที่ฝั่งจังหวัดพระตะบองต้องการด้วย และคาดว่าทั้งสองฝ่ายจะมีการเจรจาการค้าด้วยกันเพิ่มขึ้น ขณะที่สินค้าทางการเกษตรนั้นหากทางกัมพูชาจะนำเข้ามาเพื่อผ่านทางจังหวัดตราดไปยังประเทศที่ 3 หรือให้จังตราดเป็นผู้กระจายผลผลิตให้ก็สามารถทำได้ แต่ต้องผ่านมาตรฐานทางการเกษตรด้วย

ข่าว/ภาพ : จักรกฤชณ์ แววคล้ายหงษ์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดตราด

Message us