เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่บริเวณเชิงสะพานนวรัฐ หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดและปล่อยขบวนรถบุปผชาติ งานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับครั้งที่ 46 ประจำปี 2566 โดยมีหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นส่งขบวนรถบุปผชาติเข้าร่วมเพื่อชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี รวมทั้งสิ้น 22 ขบวน
สำหรับ การจัดงานครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเชิดชูวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของจังหวัดเชียงใหม่ เเละเพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์การเป็นดินแดนดอกไม้งามนาม นพบุรีศรีนครพิงค์ ให้คงอยู่ตลอดไป ปีนี้ได้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “เสน่ห์ล้านนา บุปผาเวียงพิงค์” ระหว่างวันที่ 3-5 กุมภาพันธ์ นับเป็นปีแรกที่กลับมาจัดงานอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้งหลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายดีขึ้น
ขบวนรถบุปผชาติ ถือเป็นไฮไลต์สำคัญของการจัดงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับจังหวัดเชียงใหม่ การจัดงานครั้งนี้มีหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่งขบวนเข้าร่วมทั้งสิ้น 22 ขบวน โดยในจำนวนนี้เป็นขบวนที่ส่งเข้าประกวดชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 17 ขบวน แบ่ง เป็นประเภทสวยงาม 5 ขบวน และประเภทอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ 12 ขบวน ส่วนอีก 5 ขบวน ร่วมโชว์ โดยบรรยากาศการจัดงานเป็นไปอย่างคึกคักท่ามดลางอากาศเย็นสบายมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจำนวนมากให้ความสนใจเฝ้ารอชมความสวยงามของริ้วขบวนรถบุปผชาติที่ประดับประดาไปด้วยดอกไม้นานาชนิดตลอดสองข้างทาง ตั้งแต่สะพานนวรัฐไปตามถนนท่าแพ และเส้นทางตามถนนรอบคูเมืองไปจนถึงสวนสาธารณะหนองบวกหาดจุดสิ้นสุดริ้วขบวนรถบุปผชาติ ก่อนเคลื่อนไปจอดตามประตูมุมเมืองโดยรอบที่จัดไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมและเก็บภาพสวยๆ
ขณะที่ในสวนสาธารณะหนองบวกหาดมีการจัดตกแต่งสวนดอกไม้และประดับประดาอย่างสวยงาม ภายใต้ธีมงาน “พฤกษามหัศจรรย์ สรวงสวรรค์แห่งนครเชียงใหม่” ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมจนถึงวันแห่งความรักกลางเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ประเมินว่า ตลอดช่วงการจัดงานปีนี้จะมีนักเที่ยวเข้าร่วมประมาณ 100,000 คนและก่อให้เกิดรายได้ในระบบไม่ต่ำกว่า 900 ล้านบาท
ข่าว/ภาพ : ภาพ : ภาณุเมศ ตันรักษา ผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่
