
ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสุราษฎร์ธานี ร่วมตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีเข้าตรวจค้นพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง 3 เกาะ ได้แก่ เกาะสมุย เกาะพะงัน และ เกาะเต่า พร้อบจับกุมชาวต่างชาติทำงานผิดกฎหมายและอยู่เกินวีซ่ากำหนด รวม 18 ราย ประกอบด้วยสัญชาติ อังกฤษ 1 คน, รัสเซีย 5 คน, ยูเครน 2 คน, เมียนมา 8 คน, ลาว 1 คน และคนไทย 1 คน โดยแยกเป็นพื้นที่ ดังนี้ 1.เกาะสมุย จำนวน 2 เป้าหมาย จับกุมบุคคลต่างด้าว 2 คน สัญชาติ อังกฤษ 1 คน, ลาว 1 คน ข้อหาหลบหนีเข้าเมือง 1 คน และโอเวอร์สเตย์ 1 คน

2.เกาะพะงัน จำนวน 2 เป้าหมาย จับกุมบุคคลต่างด้าว 12 คน สัญชาติ รัสเซีย 5 คน, ยูเครน 2 คน และเมียนมา 5 คน ข้อหาจัดตั้งโรงเรียนเอกชนในระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต 4 คน, จัดตั้งสถาน รับเลี้ยงเด็กโดยไม่ได้รับอนุญาต 3 คน, ประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต 2 คน, ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต ทำงาน 7 คน, ไม่แจ้งเปลี่ยนนายจ้าง 1 คน, รับคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานและไม่แจ้งคนต่างด้าวเข้าทำงาน 2 คน

3.เกาะเต่า จำนวน 1 เป้าหมาย จับกุมบุคคลต่างด้าว สัญชาติ เมียนมา 3 คน ข้อหาทำงาน โดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน และจับกุมคนไทย 1 คน ข้อหา จัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็กโดยไม่ได้รับอนุญาต และรับ คนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน
ทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร์ ผบ.ตร. รวมทั้ง พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร/ผอ.ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงาน ตำรวจแห่งชาติ ,พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ สตม. สกัดกั้น ตรวจสอบ จับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทยรวมถึงแย่งอาชีพคนไทย และให้ดำเนินการตรวจสอบกลุ่มแก็งที่มีพฤติการณ์ใช้คนไทยเป็นนอมินีบังหน้าในการประกอบธุรกิจ รวมถึงตั้งกลุ่มแก็งค์ในการกระทำผิดกฎหมายร้ายแรงอื่นๆ ได้แก่ การค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ เป็นต้น โดยได้กำหนดมาตรการ 7 มาตรการให้หน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้นำไปปฎิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
