
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่กองปราบปราม ถ.พหลโยธิน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ร่วมกับนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมตัวแทนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมแถลงผลปฏิบัติการปราบเว็บพนันออนไลน์กว่า 30 เว็บ หลังลุยค้น 31 จุดทั่วประเทศ รวบแชมป์ควายชื่อดังบังหน้าแต่เบื้องหลังลอบเปิดเว็บพนัน โดยจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 44 ราย กระทำผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และร่วมกันฟอกเงิน” รวมทรัพย์สินที่ถูกตรวจยึด 1,913 รายการ มูลค่าประมาณ 69 ล้านบาท

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) ตรวจสอบเว็บไซต์ผิดกฎหมาย พบว่า มีผู้ลักลอบเปิดเว็บไซต์ชักชวนให้ประชาชนเล่นการพนันออนไลน์ จึงประสานงานกับตำรวจสอบสวนกลางดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย โดยพล.ต.ท.จิรภพ ได้สั่งการให้ทำการสืบสวนโดยละเอียดในทุกมิติ พบว่า มีการกระทำความผิดจริง โดยกลุ่มดังกล่าว เป็นกลุ่มคนที่มีอายุช่วงวัยรุ่นถึงวัยทำงาน มีฐานะร่ำรวยผิดปกติ ภายในช่วงระยะเวลา 1-2 ปี จากการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน ประกอบกับพยานหลักฐานอื่นเชื่อว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจริง จึงนำไปสู่การขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องจำนวน 63 หมายจับ ขอหมายค้นสถานที่ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนันจำนวน 31 จุดทั่วประเทศ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางร่วมกับสำนักงาน ปปง. สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ได้จำนวน 44 คน แบ่งเป็นกลุ่มผู้รับผลประโยชน์ 5 คน, กลุ่มเปิดบัญชีม้า จำนวน 24 คน, กลุ่มคนกด-ถอนเงินหน้าตู้เอทีเอ็ม จำนวน 8 คน, กลุ่มพนักงานทำ เว็บพนัน จำนวน 7 คน นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ยังพบว่ามีการรับจ้างเปิดม้าให้ผู้กระทำผิดเเละกลุ่มฟอกเงินต่าง ๆ

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ผู้ต้องหายอมรับว่า กระทำความผิดจริง โดยแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการ เริ่มตั้งแต่จัดหาบัญชีม้า , เปิดบัญชีม้า, กลุ่มคนทำเว็บพนัน และกลุ่มผู้รับผลประโยชน์ โดยแต่ละกลุ่ม ได้รับผลประโยชน์เป็นทรัพย์สินแตกต่างกัน โดยกลุ่มนายหน้าจัดหาบัญชีม้าพร้อมใช้ ต้องมีพาสปอร์ต หรือบัตรประจำตัวประชาชน, สมุดบัญชี, บัตรเอทีเอ็ม, ซิมการ์ดโทรศัพท์พร้อมใช้ ได้รับเงินค่าจ้างจากเจ้าของเว็บหรือผู้จ้าง จำนวน 6,500-15,000 บาท โดยจะเอาเงินไปให้ผู้เปิดบัญชี เป็นค่าตอบแทนตั้งแต่ 1,500-3,000 บาท ซบางรายได้เป็นรายเดือน เดือนละ 500 บาท ถ้าหากเป็นบัญชีคนไทยจะได้รับค่าตอบแทนที่ต่ำกว่า บัญชีของคนต่างด้าว

นอกจากนี้ ยังมีลักษณะการเช่าบัญชีม้ารายเดือน เดือนละ 5,000-10,000 บาท หากบัญชีม้าที่กลุ่มนายหน้าจัดหามาเกิดมีการปิดบัญชี หรือไม่ส่งมอบเงินให้ตามที่ตกลง ก็จะมีกลุ่มบุคคลเข้าไปติดตาม ทำร้ายร่างกาย เตะ ต่อย บางครั้งมีการใช้ไม้เบสบอลทุบตีให้ได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน ส่วนกลุ่มผู้ถอนเงินหน้าตู้เอทีเอ็ม จะได้เงินค่ากดเงินครั้งละ 1,000-50,000 บาท เป็นรายครั้ง หากถอนเงินหน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร จะได้รับค่าตอบแทนที่สูงกว่า กลุ่มพนักงานที่ดูแลเว็บ จะได้รับค่าตอบแทนรายเดือน รวมกับโบนัสเป็นแรงจูงใจจากเจ้าของเว็บพนัน ซึ่งแล้วแต่ตกลงกัน

ขณะที่กลุ่มผู้รับผลประโยชน์จะนำเงินที่ได้จากเว็บพนัน โดยนำไปซื้อทรัพย์สินและเอาไปฟอกในธุรกิจที่ถูกกฎหมาย ซึ่งในกรณีนี้มีการตรวจยึดฟาร์มกระบือสวยงาม ระดับพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ ดีกรีแชมป์การประกวดกระบือ ราคาตัวละหลายล้านบาท พบเปิดมาแล้วหลายปี มีการเผยแพร่ออกสื่อแล้วหลายครั้ง

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจยึดทรัพย์สิน หลายรายการดังนี้
1.เงินสด พร้อมตู้เซฟนิรภัย รวมจำนวน 8,754,580 บาท
2.เครื่องนับธนบัตร รวมจำนวน 2 เครื่อง 3.สร้อยทองพร้อมพระเลี่ยมทอง รวมจำนวน 5 เส้น 4.ทองคำแท่งและทองรูปพรรณ หนักประมาณ 65 บาท มูลค่าประมาณ 2,379,000 บาท
5.กระเป๋าและเครื่องประดับแบรนด์เนม จำนวน 20 รายการ
6.โฉนดที่ดิน (อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด 34 ไร่ และ จ.มหาสารคาม 5 ไร่)
7.กระบือพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ชื่อ จ้าวเพชรสาเกต และมีตังค์ รวม 2 ตัว ราคา 5,600,000 บาท 8.กระบือสวยงาม และ โค พันธุ์บารห์มัน 22 ตัว 9.รถยนต์หรู 10 คัน
10.รถบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 1 คัน
11.รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน
12.รถ ATV 2 คัน
13.อาวุธปืนหลายขนาดรวม 6 กระบอก
14.สมุดบัญชีธนาคาร ที่เป็นบัญชีม้ารวมจำนวน 928 เล่ม
15.บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ATM 675 ใบ
16.โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต 596 เครื่อง
17.ซิมการ์ดพร้อมใช้ รวมจำนวน 441 ชุด
18.พาสปอร์ตคนต่างด้าว รวมจำนวน 76 ชุด 19.ชุดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ รวมจำนวน 13 เครื่อง
รวมทรัพย์สินที่ถูกตรวจยึด 1,913 รายการ มูลค่าประมาณ 69 ล้านบาท
