
นายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ระหว่างวันที่
27 ธันวาคม 2567 – 5 ธันวาคม 2568 มีสายการบินแจ้งเพิ่มเที่ยวบิน (Extra Flight ) ณ ท่าอากาศยานในสังกัด
ทั้งขาเข้าและขาออก รวมทั้งสิ้น 142 เที่ยวบิน แบ่งเป็น ท่าอากาศยานอุดรธานี 26 เที่ยวบิน ท่าอากาศยานกระบี่ 24 เที่ยวบิน ท่าอากาศยานร้อยเอ็ด 20 เที่ยวบิน ท่าอากาศยานอุบลราชธานี 20 เที่ยวบิน ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช 18 เที่ยวบิน ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี 12 เที่ยวบิน ท่าอากาศยานนครพนม 10 เที่ยวบิน ท่าอากาศยานน่านนคร 10 เที่ยวบิน และท่าอากาศยานขอนแก่น 2 เที่ยวบิน คิดเป็นร้อยละ 5.72
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเที่ยวบินประจำ (2,482 เที่ยวบิน) ทำให้มีเที่ยวบินรวมทุกท่าอากาศยานทั้งหมด 1,824 เที่ยวบิน และคาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการท่าอากาศยานในสังกัดไม่ต่ำกว่า 300,000 คน ทั้งนี้ อากาศยานในสังกัดทุกแห่งได้ดำเนินการตามข้อสั่งการอย่างเคร่งครัด เพื่อดูแลความปลอดภัยในทุกขั้นตอนการเดินทางของประชาชน นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับหน่วยงานภายในจังหวัดตรวจสอบเครื่องชั่งน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระประจำปี ที่ติดตั้งบริเวณเคาน์เตอร์เช็คอินให้ถูกต้องแม่นยำและอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการและสร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสาร

ด้าน นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรมท่าอากาศยาน (ทย.) ได้รายงานคาดการณ์จำนวนผู้โดยสารที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวผ่านท่าอากาศยานในสังกัดทั้ง 26 แห่ง ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 – 5 มกราคม 2568 จะมีประมาณ 300,000 คน เนื่องมาจากการเพิ่มเที่ยวบินและการอำนวยความสะดวกแบบบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ที่ทำให้การเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางต่าง ๆ มีความสะดวกสบาย รวดเร็ว และไร้รอยต่อ ตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
นางมนพร กล่าวว่า ได้สั่งการให้ ทย. ดำเนินมาตรการทั้งด้านการอำนวยความสะดวก ปลอดภัย และการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น หากพบว่ามีผู้โดยสารตกค้าง ณ ท่าอากาศยาน ให้อำนวยความสะดวกและช่วยเหลือจนกว่าผู้โดยสารคนสุดท้ายจะออกจากท่าอากาศยาน จัดเจ้าหน้าที่และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในอาคารที่พักผู้โดยสารให้เพียงพอ รองรับเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น และให้ท่าอากาศยานในสังกัดทุกแห่งขอความร่วมมือกรมการขนส่งทางบก และผู้ประกอบการรถรับ – ส่ง ผู้โดยสารสาธารณะ จัดเตรียมรถให้บริการผู้โดยสารให้เพียงพอทุกเที่ยวบิน ตามนโยบายเชื่อมต่อการเดินทางอย่างไร้รอยต่อของกระทรวงคมนาคม

สำหรับ ด้านความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย ได้สั่งการให้ตรวจเช็คอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ กำชับการเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการตรวจค้นและควบคุมการเข้าพื้นที่หวงห้าม เพิ่มการลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งในอาคารและพื้นที่รอบอาคารที่พักผู้โดยสาร รวมถึงให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วมด้านการรักษาความปลอดภัย โดยประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร หรือฝ่ายปกครองในพื้นที่ เพื่อวางแผนและให้ความร่วมมือเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานให้เป็นไปตามที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กำหนด รวมทั้งเตรียมแผนเผชิญเหตุเพื่อรองรับเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นและซักซ้อมอยู่เสมอ