ชูเทศบาลเมืองชัยภูมิต้นบบความสำเร็จการจัดรูปที่ดินเพื่อการพัฒนา

เมื่อวันที่ 25 เมษายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย นำผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ร่วมลงพื้นที่ตรวจราชการมอบแนวทางการขับเคลื่อนงานตามนโยบายกระทรวงมหาดไทย และเยี่ยมชมการดำเนินงานโครงการ “การบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ (หัวทะเล Model)” ตามผังภูมิสังคมเพื่อบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน/ชุมชน แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน (GEO – Social Map) ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ที่อบต.หัวทะเล อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ

นายอนุทิน กล่าวว่า ขอชื่นชม และขอบคุณทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย จนสามารถแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำ ปัญหาอุทกภัย และภัยแล้ง ปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับทำการเกษตร และปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค ในพื้นที่ตำบลหัวทะเล ได้อย่างเป็นรูปธรรม และสามารถนำมาเป็นต้นแบบให้กับพื้นที่อื่นๆได้ ซึ่งถือเป็น 1 ใน 10 นโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย

ทั้งนี้ โครงการหัวทะเล Model เกิดจากความร่วมมือกันของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมกันประชุมถอดบทเรียนจากปัญหา และความต้องการของประชาชนในพื้นที่ เพื่อหาแนวทางและแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งการขุดลอกทางน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมตามโครงการขับเคลื่อนการจัดทำแผน และประสานแผนพัฒนาพื้นที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน การจัดทำโครงการสถานีสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ต้นแบบ เพื่อกระจายน้ำให้เกษตรกรกลุ่มย่อย ลดต้นทุนเรื่องค่ากระแสไฟฟ้าในการใช้น้ำเพื่อการเกษตร การสนับสนุนให้ประชาชนได้ใช้น้ำสะอาดโดยโครงการระบบน้ำประปาภูมิภาค การพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างรายได้โดยการน้อมนำแนวพระราชดำริมาประยุกต์ใช้ รวมไปถึงการสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับประชาชน และการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต

จากนั้นนายอนุทิน ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดถนนโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณเทศบาลเมืองชัยภูมิ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ พร้อมมอบเกียรติติบัตรเพื่อขอบคุณเจ้าของที่ดินจำนวน 34 ราย โดยนายอนุทิน กล่าวว่า โครงการนี้ถ้าพูดง่ายๆคือเป็นโครงการที่เจ้าของที่ดินตาบอดเอาที่ดินมามอบให้กับรัฐ และรัฐจัดสรรงบประมาณบางส่วนในการที่จะทำให้มีถนนตัดผ่านเข้าออก แต่ถนนนั้นต้องเป็นของสาธารณะ สิ่งที่จะได้คือประชาชนได้ถนนเพิ่ม รัฐไม่ต้องไปเวนคืนที่ดินมาทำถนน และใช้เงินงบประมาณจำนวนมาก ส่วนเจ้าของที่ดินตาบอดก็จะได้ทำให้ที่ดินตัวเองไม่ตาบอด ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มที่ดินที่เขาเป็นเจ้าของก็ถือว่าวินวิน สำหรับทุกฝ่ายเป็นความร่วมมือกันระหว่างประชาชนกับภาครัฐ เบื้องต้นจะทำให้ได้จังหวัดละหนึ่งโครงการก่อน ซึ่งทำไปแล้วที่ จ.ระนอง จ.ชัยภูมิ และน่าจะเป็นที่ จ.ภูเก็ต อีกหนึ่งที่ ขณะที่ส่วนอื่นๆกำลังดำเนินการอยู่

“อะไรก็ตามที่ทำแล้วพี่น้องประชาชนได้ประโยชน์ พวกเราทุกคนพร้อมที่จะดำเนินการให้โดยไม่ได้คำนึงถึงว่าใครอยู่พรรคไหน เพราะไม่ว่าจะมาจากพรรคไหน เจ้านายของเราทุกคนคือพี่น้องประชาชน นี่คือการร่วมมือกันของประชาชนกับรัฐ ซึ่งรัฐทำคนเดียวไม่ได้ เพราะจะบังคับให้ท่านสละพื้นที่โดยที่ใช้กฎหมายเวนคืนก็จะเกิดความวุ่นวายหลายอย่าง แต่ถ้าท่านทำคนเดียวก็จะรู้สึกว่าทำไมต้องเสียสละอยู่คนเดียวคนอื่นได้ประโยชน์ ดังนั้น พวกเรามารวมกันแล้วทำจึงเป็นเรื่องที่ดีกว่า”รมว.มหาดไทย กล่าว

Message us