ชาวสวนลำใยเชียงใหม่สุดช้ำน้ำท่วมเสียหายหนักต้นเริ่มเหี่ยวเฉายืนต้นตาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลกระทบจากอุกภัยครั้งใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากจะทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหายมหาศาลแล้วพื้นที่ทางการเกษตรโดยเฉพาะสวนลำไยของเกษตรกรในพื้นที่อำเภอสันป่าตอง ที่ติดกับแม่น้ำปิงเสียหายจำนวนมาก สวนลำใยของ นายกิตติ์นิพัทธ์ สุนันตะ เกษตรกรชาวสวนลำไย บ้านแม่ข่องใต้ ต.แม่ก๊า อ.สันป่าตอง เพิ่งตกแต่งกิ่งเตรียมลำต้นเพื่อทำลำไยนอกฤดูช่วงปลายปีนี้ สวนลำใยถูกมวลน้ำจากอำเภอหางดงไหลหลากเข้าท่วมสูงกว่า 2 เมตร ทำให้ต้นลำไยที่มีอายุ 4-8 ปี พื้นที่กว่า 7 ไร่ รวมกว่า 150 ต้นถูกน้ำท่วมจมไปกับน้ำนานนับเดือนใบเริ่มเหี่ยวเฉา บางต้นถึงกับยืนต้นตายแล้ว

ทั้งนี้ ชาวสวนลำไยในพื้นที่บ้านแม่ข่องเหนือ บ้านแม่ข่องกลาง และบ้านแม่ข่องใต้ ต.แม่ก๊า อ.สันป่าตอง มีพื้นที่ปลูกลำไยถูกน้ำท่วมกว่า 500 ไร่ ส่วนใหญ่จะถูกน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน เมื่อระดับน้ำเพิ่งลดลงเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้รากเน่าใบลำไยเริ่มเหี่ยวเฉา ซึ่งขณะนี้เกษตรกรส่วนใหญ่ได้แต่มองอย่างท้อใจ หากลำไยยืนต้นตายคงต้องตัดทิ้งทันที อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เกษตรกรเพิ่งจ้างคนงานตกแต่งกิ่งและใส่ปุ๋ยบำรุงต้นลำไยหมดเงินไปรายละหลายหมื่นบาท เพื่อเตรียมความพร้อมของต้นลำไยในการทำผลผลิตนอกฤดู แต่ก็มาถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายทั้งหมด 

นายกิตติ์นิพัทธ์ สุนันตะ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินร่วม 3 แสนบาท มาลงทุนในการเพาะปลูกลำไยและเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ประมาณ 2 ปี ก็ถูกน้ำท่วมอีกและไม่รู้ว่าต้นลำไยที่ถูกน้ำท่วมจะตายรอดกี่ต้น จึงอยากขอให้ภาครัฐช่วยเหลือในเรื่องเงินชดเชยเยียวยาและสนับสนุนต้นกล้าลำไยให้เกษตรกร นอกจากนี้อยากให้ทางรัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกรในเรื่องการพักชำระหนี้และขอแหล่งเงินทุนในการลงทุนใหม่ด้วย

ด้าน นายเจริญ พิมพ์ขาล เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนางมัฑนา ธรรมใจ เกษตรอำเภอสารภี เจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอสารภี ลงพื้นที่บ้านปิงน้อง ต.สันทราย อ.สารภี เพื่อสำรวจความเสียหายพื้นที่เพาะปลูกลำไยอีกแห่งหนึ่งหลังน้ำลด จากที่สวนถูกน้ำท่วมขังยาวนานเกือบ 2 เดือน ล่าสุดยังมีน้ำท่วมขังตามสวนลำไยอยู่

นายเจริญ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่เพาะปลูกลำไยมากที่สุดของประเทศ 448,000 ไร่ ประสบอุทกภัย 22 อำเภอ 151 ตำบล 859 หมู่บ้าน ส่งผลให้พื้นที่เพาะปลูกลำไยถูกน้ำท่วมประมาณ 19,581 ไร่ พื้นที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบที่ถูกน้ำท่วมมากกว่า 1 เดือนประมาณ 6 พันไร่ เพราะต้นลำไยแช่น้ำนานรากเริ่มเน่า ทิ้งใบและยืนต้นตายในที่สุด ในส่วนความช่วยเหลือขณะนี้เกษตรกรจะได้รับการช่วยเหลือชดเชย 4,048 บาท/ไร่ แต่ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ จากเดิมเจ้าหน้าที่จะให้ความช่วยเหลือหลังจากนี้ 90 วัน ได้มีการลดขั้นตอนการพิจารณาเหลือ 65 วัน ซึ่งให้เจ้าหน้าที่ออกสำรวจให้แล้วเสร็จภายใน 30วัน เพื่อดำเนินการช่วยเหลือโดยผ่านคณะกรรมการระดับตำบล อำเภอ จังหวัด โดยเกษตรกรจะต้องผ่านการขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับสำนักงานเกษตรอำเภอ กรมส่งเสริมการเกษตร ส่วนผลกระทบด้านผลผลิตลำไยในปีหน้าจากการที่เกิดปัญหาน้ำท่วมคาดว่า ผลผลิตลำไยในฤดูจะลดลง 10 % หรือประมาณ 45,000 ตัน

สำหรับ การฟื้นฟูต้นลำไยหลังน้ำลดให้เกษตรกรเร่งตัดแต่งกิ่งที่เสียหาย หาไม้ค้ำยันไว้ให้ตั้งตรง ในช่วง 5 วันแรก ไม่ควรให้น้ำหรือปุ๋ยยาต่างๆ และไม่เหยียบย่ำบริเวณราก เมื่อต้นเริ่มฟื้นตัวแล้วจึงให้น้ำแต่น้อย ๆ แล้วควรให้ปุ๋ยและฮอร์โมนเพื่อเร่งการเจริญเติบโตของรากและปรับปรุงดินด้วยไตรโครเดอร์ม่าให้สภาพดินดี ในอัตราเชื้อราไตรโคเดอร์มา สด 1 กิโลกรัม รำละเอียด 5กิโลกรัม ปุ๋ยอินทรีย์ 100 กิโลกรัมใช้รองก้นหลุม หว่าน หรือโรยรอบบริเวณโคน ซึ่งไม้ผลหรือไม้ยืนต้นใช้ 3 – 5 กิโลกรัมต่อต้น หากต้องการสอบภามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ/สำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน โทรศัพท์ 0-5311-2478-79  

ข่าว/ภาพ : ภาณุเมศ ตันรักษา ผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่

Message us