
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ครอบครัวและชาวบ้านต่างแปลกประหลาดใจ หลังจากนายธนพล หรือน้องภู 16 ปี หายตัวไปจากที่พักในแคมป์คนงานที่พ่อทำงานอยู่ ตั้งอยู่หมู่ 1 บ้านโคกเพชร ต.ช่อผกา อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ แล้วพ่อไปเจอรอยลื่นไถลตกลงไปในน้ำลำมาศ ใกล้กับแคมป์คนงานเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา จึงแจ้งให้หน่วยกู้ภัยช่วยค้นหา หน่วยกู้ภัยหลายพื้นที่ได้มาช่วยกันงมค้นหาตั้งแต่ช่วงบ่าย จนถึงเที่ยงคืน ก็ไม่พบจึงยุติการค้นหา แต่พอช่วงเช้าของวันที่ 16 ส.ค.ชาวบ้านไปพบนายภู อยู่ในป่าห่างจากจุดที่ลื่นไถลตกน้ำประมาณ 2 กิโลเมตรในสภาพตกใจและตื่นกลัว จึงได้พากลับมาส่งที่แคมป์คนงานที่พ่อทำงานอยู่

ล่าสุดทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังแคมป์คนงานจุดที่หนุ่มวัย 16 หายไป พบทั้งพ่อและญาติต่างดีใจได้พากันนำสายสิญจน์มาผูกข้อไม้ข้อมือเพื่อเรียกขวัญตามความเชื่อ โดยสีหน้าท่าของน้องภูยังดูมึนๆ งงๆ เมื่อสอบถามก็พูดไม่ค่อยรู้เรื่องบอกแค่ว่าลื่นตกน้ำแล้วก็ว่ายน้ำไปเรื่อย ตกกลางคืนก็เห็นผู้หญิงใส่ชุดสีเขียวแล้วก็หายไป จากนั้นก็จำอะไรไม่ค่อยได้ กระทั่งวันต่อมามีชาวบ้านมาเห็นและพามาส่งที่แคมป์

น.ส.กมลวรรณ พันธุ์เขียน เลขานุการกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุดอำเภอชำนิ พาทีมข่าวเดินดูจุดที่น้องภู ลื่นตกน้ำว่า จุดนี้มีตอตะเคียนทองอยู่ในน้ำน่าจะเป็นผู้หญิงชุดเขียวที่น้องบอกว่าเห็นหรือไม่ โดยเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ช่วงบ่ายๆ ได้รับแจ้งจากกำนันตำบลช่อผกาว่า มีบุคคลสูญหายแต่ไม่ทราบตำแหน่งที่ชัดเจน พบเพียงร่องรอยคล้ายลื่นไถลลงน้ำลำมาศ หลังแคมป์คนงานโรงโม่ปูน สจ.โหน่ง จึงทำการออกตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และผู้นำท้องที่ทัองถิ่น ชุดประดาน้ำจากกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมจุดเมือง กู้ภัยสว่างจรรยาธรรมจุดอำเภอโนนสุวรรณ กู้ภัยสว่างจรรยาธรรมจุดอำเภอบ้านกรวด กู้ภัยสว่างจรรยาธรรมจุดอำเภอปะคำ กู้ภัยหนองกี่ สมาคมกู้ภัยลำมาศการกุศลสงเคราะห์ สมาคมกู้ภัยโนนดินแดง มาช่วยค้นหา โดยทำการค้นหาทั้งบนบกและในลำน้ำมาศ ตั้งแต่บ่ายจนถึงเที่ยงคืนแต่ไม่พบ จึงยุติภารกิจ กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 16 ส.ค. จะพากันมาค้นหาอีกครั้ง แต่มีชาวบ้านคนหนึ่งขับรถพานายภูคนที่หายมาส่งที่แคมป์คนงาน เป็นเรื่องที่แปลกมาก

สอบถามพ่อของน้องภูอายุ 16 ปี เล่าให้ฟังว่า ลูกชายป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ก่อนที่ลูกจะหายได้ไปกราบเท้าพ่อ เขาไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนแต่พ่อก็ไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งช่วงบ่ายหาลูกไม่เจอแล้วไปเจอรอยคล้ายลื่นไถลตกน้ำ จึงแจ้งกู้ภัยให้มาช่วยตามอยู่ในป่าท้ายหมู่บ้านหัวสะพาน หมู่ 4 ต.ช่อผกา อ.ชำนิ อยู่ห่างจากแคมป์คนงานประมาณ 2 กิโลเมตร ช่วงเช้ามีชาวบ้านไปเจอ เขาเลยมาส่งแคมป์คนงาน อยู่ในอาการลักษณะตกใจกลัวและมีอาการตัวสั่นจึงให้เขานั่งก่อนก่อนจะอาบน้ำและมาผูกข้อไม้ข้อมือตาม ประเพณีการผูกข้อไม้ข้อมือสู่ขวัญ

ด้านนายประมวล บ่อไทย สมาชิกสภาจังหวัดบุรีรัมย์เขตอำเภอชำนิ หรือ สจ.โหน่ง เจ้าของโรงปูน เล่าว่า ก่อนหน้านี้ที่น้องจะหายไป มีคนขับรถแม็คโฮมาเล่าให้ฟังว่า เจ้าแม่ตะเคียนที่ขุดเจอในสระมาเข้าฝัน ว่า ต้นตะเคียนที่เอาไปอยู่ที่วัดให้เขาตากฝนอยากให้ทำหลังคา และอยากได้ชุดไทยสีชมพูด้วย พอเกิดเหตุการณ์น้องหายตัวไป ตนจึงพูดไปว่าเดี๋ยวจะทำหลังคาให้ตามที่มาเข้าฝันคนขับรถ แต่ขอให้เจอตัวน้องที่หายไป หลังจากพูดเสร็จก็ออกไปกินข้าวข้างนอกแป๊บเดียว พอเข้ามาก็มีชาวบ้านขับรถพาน้องมาส่ง ที่แคมป์คนงานก็รู้สึกแปลกใจ ไม่คิดว่าสิ่งที่ตนพูดไปจะเป็นจริง ทำให้เชื่อว่าแม่ตะเคียนทองที่ชาวบ้านเล่าลือกันจะมีจริง ตนก็จะทำตามที่รับปากไว้ ตอนนี้ในคลองลำมาศที่อยู่ติดกับโรงปูน ยังมีตอตะเคียนอยู่ที่ยังไม่ได้เอาขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้ชาวบ้านหลายคนเชื่อว่า น่าจะเป็นแม่ตะเคียนทองที่ช่วยชีวิตน้องไว้
ข่าว/ภาพ : สุรชัย พิรักษา ผู้สื่อข่าวจังหวัดบุรีรัมย์

