ชลบุรีพร้อมใจแต่งชุดไทยย้อนยุคร่วมงาน”รำลึก 171 ปี พระปิยมหาราช”

เมื่อคืนวันที่ 20 ก.ย. ที่พื้นที่บริเวณพระจุฑาธุชราชฐาน นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานเปิดงาน รำลึก 171 ปี พระปิยมหาราช” โดยมี น.ส.ประภัสรา ศรีทอง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี นายวิทยา คุณปลื้ม นายกอบจ.ชลบุรี นางอำไพ ศักดานุกูลจิต สไลวินสกี้ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี นายชูศักดิ์ นันทิธัญญธาดา นายอำเภอเกาะสีชัง นายสรศักดิ์ เภตรา นายกเทศมนตรีตำบลเกาะสีชัง พ.ต.ต.อภิชาติ จารุรักษ์ สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 ทพญ. ณัฏฐ์ศรัย ชัยจินดารัตน์ นายกสมาคมการท่องเที่ยวและบริการศรีราชาเกาะสีชัง ตลอดจนผู้นำท้องถิ่น นักท่องเที่ยวและประชาชน ทั่วไปร่วมกันแต่งชุดไทยย้อนยุคเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

นายธวัชชัย กล่าวว่า งาน “รำลึก 171 ปี พระปิยมหาราช” จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ในวันที่ 20 กันยายนของทุกปีซึ่งชาวอำเภอเกาะสีชัง ทุกหมู่เหล่าได้พร้อมใจกันแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีคุณานุปการต่อปวงชนชาวไทยและชาวเกาะสีชัง นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้ทราบถึงประวัติของเกาะสีชัง ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ไทยถึง 3 รัชกาล คือ รัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 นับได้ว่าเป็นเกาะที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้หมุนเวียนสู่ชุมชนได้เป็นอย่างดี

สำหรับ การจัดงานในครั้งนี้ นอกจากมีการประดับไฟทั่วทั้งพระจุฑาธุชราชฐาน ซึ่งอยู่ทางทิศใต้แล้ว ยังมีการประดับไฟสมโภช มณฑปรอยพระพุทธบาท ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเกาะด้วย โดยรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ศิลารอยพระพุทธบาทโบราณมาจากอินเดีย รัชกาลที่ 5 จึงโปรดเกล้าฯ ให้นำขึ้นไป ประดิษฐาน ณ ไหล่เขายอดพระจุลจอมเกล้าไว้เป็นที่สักการะบูชา คนที่มาเยือนเกาะสีชังจึงควรมากราบสักการะเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และบริเวณนี้ยังเป็นจุดชมวิวของเกาะ และชมพระอาทิตย์ขึ้น ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในชลบุรีด้วย

ทั้งนี้ เกาะสีชัง ได้ชื่อว่าเป็นอำเภอที่เล็กที่สุดในประเทศไทย ถือเป็นเกาะงามกลางอ่าวทะเลไทยอยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด โดยมีระยะทาง 117 ก.ม. จากกรุงเทพฯ และ 12 ก.ม. จากชายฝั่ง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มีจุดUNSEEN ที่สร้างประสบการณ์ความโรแมนติกของการชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก รวมทั้งมีประวัติศาสตร์ งานศิลปะ วิถีชีวิตชุมชนที่น่าหลงใหล ซึ่งที่นี่มีกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด คือการทำผ้าบาติก ตั้งแต่เขียนลาย ลงสี โปจนถึงการแปรรูปให้เป็นของฝากที่หลากหลาย ให้ได้ช่วยอุดหนุนสร้างรายได้ให้กับชุมชน ไม่ว่าจะเป็น พวงกุญแจ กระเป้าผ้าผ้าบาติก และแม่เหล็กผ้าบาติก ที่สร้างสรรค์ลวดลายจากสัตว์ทะเลนามาชนิด รวมถึงลายกระรอกขาว ซึ่งเป็นสัตว์ประจำถิ่นของเกาะสีชัง พบมากตามป่าบนเขาที่อยู่ทางใต้และตะวันตกของเกาะ โดยกระรอกสีชังนั้นแตกต่างจากกระรอกขาวทั่วไปตรงที่มันเป็นสายพันธุ์หรือชนิดย่อย (Subspecies) ของกระรอกหลากสีที่พบเฉพาะบนเกาะนี้เท่านั้น

ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า จังหวัดชลบุรีกำลังผลักดันเกาะสีชัง ให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่ของไทย โดยจังหวัดชลบุรี มีลักษณะทางกายภาพภูมิประเทศที่มีความพร้อมด้านโลจิสติกส์ทั้งน้ำ และทางบก รวมทั้งทางอากาศที่อยู่ไม่ไกลจากสนามบินอู่ตะเภา เป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้าทางทะเล และเส้นทางผ่านการเดินเรือขนส่งสินค้าในภูมิภาคอินโดจีนและจัดให้เป็นศูนย์บริการท่องเที่ยวครบวงจรเชื่อมโยงเกาะต่างๆ เกาะขามใหญ่ และเกาะค้างคาวเป็นแหล่งท่องเที่ยวในการศึกษาธรรมชาติ ซึ่งจะสร้างงาน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับประชาชนในพื้นที่

ด้านนางอำไพ ศักดานุกูลจิต สไลวินสกี้ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากขอเชิญชวนผู้ที่มาเที่ยวแต่งกายชุดไทย เพื่อสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบย้อนวันวาน พร้อมชมการแสดงแสงสีเสียงเทิดพระเกียรติ “สมเด็จพระปิยมหาราช” และในคืนวันที่ 21 กันยายน ยังมีการประกวดธิดาย้อนยุคด้วย ส่วนวันที่ 22กันยายน จะเป็นการแสดง Mini Concert ของศิลปินชื่อดัง ขวัญใจแม่ยก “ไรอัล กาจบัณฑิต” การแสดงศิลปวัฒนธรรม พร้อม ชม ชิม ข้อปอาหารคาวหวาน และอาหารทะเลเมนูเด็ดในตลาดย้อนยุค รวมกว่า 80 ร้านค้า

Message us