
เมื่อวันที่ 12 พ.ย. นายพายุ เนื่องจำนงค์ อดีตผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มคนรุ่นใหม่พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีเหตุเด็กช่างกลใช้อาวุธปืนยิงกัน จนทำให้กระสุนพลาดไปถูกครูสอนคอมพิวเตอร์โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ที่เดินผ่านมาเสียชีวิต ได้ให้ความเห็นว่า ความสูญเสียของชีวิตจากอาวุธปืนในประเทศไทย เริ่มเกิดขึ้นในอัตราที่ถี่ขึ้นเรื่อย ๆ แทบทุกปี ซึ่งปัญหานั้นเกิดจากหลาย ๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเพราะการสามารถเข้าถึงปืนเถื่อนที่ง่ายขึ้น การนำปืนพร็อพ (prop gun) มาดัดแปลงเพื่อขายผู้เยาว์ รวมไปถึงปัญหาของ mental health ในสังคมที่ไม่ถูกให้ความสำคัญเท่าที่ควร แต่ปัญหาสำคัญที่สุดในวันนี้คือการขาดการใส่ใจในการ “ปฏิรูป” กฎหมายการครอบครองปืนโดยผู้มีอำนาจแทนการแก้ไขแบบ “อุดรู” เป็นครั้งๆไปทุกครั้งที่เกิดเหตุโศกนาฏกรรมจากอาวุธเกิดขึ้น
ทุกคนก็จะ “ตื่นตัว” อยู่พักหนึ่งตามกระแสและก็จะเงียบหายไปจนกว่าจะมีกรณีใหม่ ทำให้กลายเป็นวัฏจักรที่สังคมนั้น “คุ้นชิน” ไปแล้ว แต่ไม่ควรที่จะถูกเมินเฉย ฝ่ายร่างกฎหมายและฝ่ายบังคับใช้กฎหมายจะต้องทำงานควบคู่ไปด้วยกันเพื่อให้มีกฎหมายการครอบครองปืนที่บังคับใช้และปฏิบัติได้จริง
ยิ่งไปกว่านั้น เดือนนี้ครบรอบ 14 ปีการจากไปของมารดาของตนที่ตกเป็นเหยื่อของปืนเถื่อนที่มือปืนนำมาใช้ในการลอบสังหาร จึงทำให้การสอบสวนหาคนกระทำผิดนั้นหยุดชะงักและไม่สามารถสืบสวนต่อได้ ตนจึงตระหนักดีถึงปัญหานี้ ซึ่งทุก ๆ ปีที่ผ่านไปตนก็หวังว่าในที่สุดจะมีกฎหมายที่สามารถป้องกันให้เหตุการทำนองนี้นั้นไม่เกิดขึ้นกับผู้อื่น แต่สุดท้ายก็ผิดหวังเช่นเดิม

ด้าน นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย หรือ อาจารย์อุ๋ย นักวิชาการด้านกฎหมายและอดีตผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ พรรคประชาธิปัตย์ มองว่า เหตุการณ์ความรุนแรงจากอาวุธปืนล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์กราดยิงที่ห้างดังเพียง 1 เดือน ซึ่งนับว่าถี่มาก และแสดงให้เห็นว่ามาตรการต่าง ๆ ที่ภาครัฐออกมาเพื่อควบคุมอาวุธปืนแบบเร่งด่วนไม่ได้ผลโดยสิ้นเชิง ตนจึงอยากให้ภาครัฐเร่งทบทวนมาตรการทุกมาตรการเกี่ยวกับอาวุธปืน ไม่ว่าจะเป็นปืนที่ถูกกฎหมาย ผิดกฎหมาย หรือสิ่งเทียมอาวุธปืน ซึ่งกฎหมายยังไม่ครอบคลุมชัดเจน และตามข่าวปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ก่อเหตุหาอาวุธปืนจากช่องทางออนไลน์ ภาครัฐจึงต้องเร่งปราบปรามจับกุมการซื้อขายอาวุธปืนในช่องทางออนไลน์ รวมทั้งกำกับดูแลบริษัทขนส่งทางไปรษณีย์ ลงโทษผู้ประกอบการขนส่งสินค้าที่มีส่วนในการขนส่งวัตถุที่ละเมิดกฎหมาย และลงโทษเจ้าของแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าที่ปล่อยให้มีการซื้อขายสินค้าที่ละเมิดกฎหมาย รวมทั้งแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทระหว่างสถาบันโดยเร็ว
ทั้งนี้ ตนอยากเรียกร้องไปยังภาคประชาสังคม ภาคประชาชนและทุกภาคส่วนในสังคม ให้อย่านิ่งเฉยหรือวางเฉย เพราะเหตุล่าสุดนี้เกิดขึ้นใจกลางเมืองที่มีผู้คนหนาแน่น และผู้เสียชีวิตเป็นถึงครูบาอาจารย์ที่มีหน้าที่สร้างอนาคตของชาติ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับเหตุรุนแรง แต่กลับต้องมาเสียชีวิต ซึ่งทำให้ประเทศชาติต้องสูญเสียบุคลากรที่มีคุณค่า สูญเสียโอกาสในการสร้างเด็กและเยาวชนซึ่งจะเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศ และเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกที่และทุกเวลา แม้ว่าบุคคลนั้นจะเป็นสุจริตชนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมใด ๆ เลยก็ตาม จึงเป็นเรื่องที่คนไทยทุกคนต้องลุกขึ้นมาช่วยกันเอาจริงจังในการแก้ไข อย่าปล่อยให้เรื่องปกติที่ชาชิน