เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม สถานการณ์ประมงผิดกฎหมายริมฝั่งพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช กำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤติ โดยเฉพาะพื้นที่ชายฝั่งแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำแหล่งผลิตอาหารทะเลที่สำคัญสร้างมูลค่าต่อปีนับพันล้านบาท ซึ่งมีพื้นที่รอยต่อ 3 อำเภอ ตั้งแต่อำเภอปากพนัง อำเภอเมือง และอำเภอท่าศาลา หลายร้อยตารางกิโลเมตร มีการใช้เครื่องมือผิดกฎหมายของกลุ่มทำลายล้างใช้กันอย่างเสรีเข้าออกปากอ่าวอย่างเปิดเผย
ในขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ประมงที่ออกดูแลไม่สามารถรับมือกับวิกฤตินี้ได้เนื่องจากมีไม่ถึง 10 คน เชื้อเพลิงเรือปราบปรามทำงานได้สูงสุดเดือนละ 3-4 วันเท่านั้น และเหลือเพียงหน่วยงานเดียวที่ทำงาน ขณะที่การขยายตัวของชาวประมงที่ใช้เครื่องมือผิดกฎหมายมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังมีผลต่อการคุกคามหรือบีบคั้นการใช้ชีวิตของกลุ่มประมงเชิงอนุรักษ์ในหลายชุมชนที่ต้องอยู่อย่างยากลำบาก และเกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง
ชาวประมงถูกฏหมายรายหนึ่ง เผยตัวระบุว่า ปัจจุบันประมงผิดกฎหมายเป็นขบวนการอิทธิพล หลังที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถควบคุมได้ ทะเลอ่าวนครศรีธรรมราชเหมือนเป็นแดนเถื่อน โดยเฉพาะปากพูน ปากพญา ปากนคร ไปจนถึงอ่าวปากพนัง เต็มไปด้วยประมงใช้เครื่องมือผิดกฎหมาย กลุ่มประมงพื้นบ้านถูกกฎหมายกลายเป็นผู้ที่ถูกข่มขู่คุกคามทั้งในทะเล ไปจนถึงบนฝั่ง ครอบครัวไหนทำประมงถูกกฎหมายจะไม่คบค้าสมาคมด้วย
อย่างไรก็ตาม กลุ่มประมงที่ใช้เครื่องมือผิดกฎหมายขณะนี้เป็นเครื่องมือประเภทอวนรุนหัว ตะแกรงคราดหอย ลอบไอ้โง่ หรืออวนลากข้าง ประเมินว่า ในพื้นที่รอยต่อทั้ง 3 อำเภอ มีกว่า 2 พันลำ จากเดิมมีไม่ถึง 500 ลำ หลังจากการปฏิบัติการเจ้าหน้าที่อ่อนล้าลง ทำให้สถานการณ์วิกฤติขยายตัวอย่างต่อเนื่อง กำลังเป็นภัยคุกคามความมั่นคงทางด้านแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญของจังหวัดนครศรีธรรมราช เชื่อว่าไม่เกิน 5 ปีวิกฤติทรัพยากรอาหารทะเลของจังหวัดจะถึงจุดล้มเหลวแน่ วอนเจ้าหน้าที่เร่งปราบปรามให้สิ้นซาก
