จี้ยกเลิกขนยางพาราผ่านด่านเจดีย์สามองค์ทำท่องเที่ยวทรุดหนัก

จากกรณีเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีหนังสือด่วนที่ กจ 00173/3106 ถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ช่วยเร่งหารือกับศุลกากร พิจารณาทบทวนการอนุญาตการขนยางผ่านแดน (Transit) ณ จุดผ่านแดนชั่วคราวบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกับบ้านพญาตองซู ประเทศเมียนมา

ทั้งนี้ เนื้อหนังสือระบุว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้มีประกาศ เรื่อง ผ่อนผันเปิดจุดผ่านแดนชั่วคราวพระเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้ชาวต่างประเทศเดินทางเข้า-ออกได้เฉพาะเพื่อการท่องเที่ยวเท่านั้น ลงวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ.2541 หลังจากนั้นในเดือนธันวาคม 2564 ด่านศุลกากรสังขละบุรีได้อนุญาตให้ผู้บริการส่งสินค้าผ่านแดน ขนส่งยางพาราจากประเทศเมียนมาไปยังประเทศมาเลเซีย โดยใช้รถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ความยาว 13.65 เมตร น้ำหนักบรรทุกคันละ 30 ตัน วันละ 5-19 คัน/วัน ต่อมา และในเดือนกันยายน 2566 ได้ปรากฎข่าวสารทางสื่อมวลชนว่า มีการลักลอบนำเข้ายางพาราเถื่อนผ่านจุดผ่านแดนชั่วคราวบริเวณด่านพระเจดีย์สามองค์ และคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบผลกระทบการขนส่งยางพาราผ่านแดน เมื่อวันที่ 17-18 ธันวาคม 2566 นั้น

จังหวัดกาญจนบุรีขอเรียนให้ทราบว่า การขนส่งยางพาราผ่านแดน (Transit) ผ่านจุดผ่านแดนชั่วคราวบริเวณด่านพระเจดีย์สามองค์ ส่งผลกระทบ ดังนี้ 1.อุบัติเหตุจากรถบรรทุกยางพาราผ่านแดนพลิกคว่ำ โดยในช่วงเดือนตุลาคม 2566-กุมภาพันธ์ 2567 ได้เกิดอุบัติเหตุ จำนวน 3 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บจำนวน 2 ราย การจราจรติดขัดแต่ละครั้ง นานกว่า 20 ชั่วโมง 2.นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางเข้า – ออก อำเภอสังขละบุรีได้ตามที่วางแผนการเดินทางไว้ 3.รถพยาบาล/รถฉุกเฉิน/รถกู้ภัย ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันเวลา 4.ถนนชำรุด เนื่องจากถนนในพื้นที่อำเภอสังขละบุรีไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อการพาณิชย์ความกว้างไม่เหมาะสม ไม่มีไหล่ทาง ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรถพวงและรถบรรทุก ทำให้เกิดการกินเลนเหมาะสำหรับรถยนต์ปกติเท่านั้น และด่านศุลกากรสังขละบุรีไม่มีตราชั่งน้ำหนักรถบรรทุก

จังหวัดกาญจนบุรีพิจารณาแล้วเห็นว่า บริเวณด่านพระเจดีย์สามองค์และสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอสังขละบุรี มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ประกอบกับการเปิดจุดผ่านแดนฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และการกระจายรายได้แก่ประชาชนท้องถิ่น หากปิดจุดผ่านแดนชั่วคราวฯ อาจส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงขอให้กระทรวงมหาดไทยประสานกรมศุลกากรพิจารณาทบทวนการอนุญาตการขนส่งยางพาราผ่านแตน (Transit) และในระหว่างการทบทวนขอให้พิจารณาระงับการส่งยางพาราผ่านแดน (Transit) ณ จุดผ่านแดนชั่วคราวบริเวณด่านพระเจดีย์สามองค์ไปพลางก่อน จนกว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติในการส่งยางพาราผ่านแดน (Transit) และมีการปรับปรุงถนนให้มีความพร้อมในการรองรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ ทั้งนี้ ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าผ่านแดนสามารถส่งสินค้าผ่านช่องทางจุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรีได้

อย่างไรก็ตาม เช้าวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ด่านพระเจดีย์สามองค์ พบว่า บริเวณหน้าด่านศุลกากร (ด่านเจดีย์สามองค์) ไม่ปรากฏการเดินทางข้ามแดนมาของรถบรรทุกยางพาราข้ามแดน เช่นเดียวกับบริเวณลานจอดรถบริเวณข้างวัดบ้านพระเจดีย์สามองค์ ไม่มีรถบรรทุกยางพาราของผู้ประกอบการชาวเมียนมาและชาวไทย จอดขนถ่ายยางพาราเหมือนที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ พบเพียงรถบรรทุกสินค้าชนิดอื่นที่ยังคงมาจอดเพื่อรอการขนถ่ายสินค้า เช่นเดียวกับบริเวณ ซ.เกษตร1 ซึ่งเป็นช่องทางที่กำหนดให้เป็นจุดขนถ่ายสินค้าจำพวกของอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ที่ยังมีการขนถ่ายและนำสินค้าผ่านแดนเข้า-ออก ภายใต้การควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้าฯ กองกำลังสุรสีห์ ศุลกากร ฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายอาณุภาพ หอมจันทร์ ผู้อำนวยการส่วนบริการด่านศุลกากรอำเภอสังขละบุรี เปิดเผยว่า หลังจากมีหนังสือหารือของผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ทางด่านศุลกากรได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการยางพาราผ่านแดนให้ระงับการนำเข้ายางฯ ผ่านแดนไว้ก่อน เพื่อรอความชัดเจนจากผู้บังคับบัญชา ส่วนสินค้าชนิดอื่นที่ได้รับอนุญาตยังคงสามารถดำเนินการนำเข้า-ส่งออกได้ตามปกติ

ขณะที่ผู้ประกอบการร้านขายสินค้าที่ระลึกบริเวณด่านเจดีย์สามองค์รายหนึ่ง กล่าวว่า หากเลือกได้อยากให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมากกว่าสถานที่ขนถ่ายสินค้า เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้า และมีรายได้หลักจากการท่องเที่ยว ที่ผ่านมาการเปิดให้มีการนำเข้ายางฯ ข้ามแดนส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ผลจากปัญหากลิ่นเหม็นและสถานที่จอดรถ รวมทั้งความปลอดภัยในการเดินทาง ส่งผลให้จากที่เคยมีรายได้วันละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท เหลือเพียงวันละ 300-400 บาทในปัจจุบัน แต่หากจำเป็นต้องมีการขนถ่ายสินค้าจริงๆ ก็อยากให้มีการขยับจุดสถานที่ขนถ่ายออกไปอยู่ในพื้นที่นอกหมู่บ้านเพื่อลดความเดือดร้อนเรื่องกลิ่น ถนนชำรุด และฝุ่นควันจากรถบรรทุกทั้งไทยและเมียนมาที่เดินทางเข้าออกวันละ 20-30 คัน

ทั้งนี้ อ.สังขละบุรีเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญระดับประเทศ โดยมีสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ (สะพานมอญ) วิถีชาวไทยเชื้อสายมอญ ป่าเขา น้ำตก วัดวังก์วิเวการาม (วัดหลวงพ่ออุตตมะ) อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ด่านเจดีย์สามองค์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่สร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่ปีละหลายร้อยล้านบาท หากไม่รีบดำเนินการแก้ไขอาจส่งผลกระทบต่อความสุข และคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวอำเภอสังขละบุรีอย่างแน่นอน

มีรายงานว่า จากข้อมูลของด่านศุลกากรสังขละบุรีพบว่า ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน2566 จนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์2567 มีการนำยางพาราผ่านแดนเข้ามาแล้วกว่า 51,000 ตัน

ข่าว/ภาพ : ปิยรัชต์ จงเจริญ ผู้สื่อข่าวจังหวัดกาญจนบุรี

Message us