
เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่รัฐสภา นายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีการตรวจสอบคดีหมูเถื่อน จนมีการเด้งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ว่า กมธ.ให้ความสำคัญ และสนใจเป็นยิ่งยิ่งว่า มีต้นสายปลายเหตุเป็นอย่างไร โดยวันนี้(29 พ.ย.) กมธ.ฯจะมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมศุลกากร กรมประมง กรมปศุสัตว์ ที่ถือเป็นประตูด่านแรกในการตรวจสอบ เพราะเริ่มนำเข้าหมูเถื่อนมาจากแหลมฉบัง รวมถึงดีเอสไอ มาชี้แจงให้ข้อมูล ส่วนประเด็นที่จะตั้งถามดีเอสไอ โดยเฉพาะความเชื่อมโยงกับผู้มีอิทธิพลทางการเมืองที่มีกระแสข่าวออกมาว่า เป็นอดีตรัฐมนตรี ชื่อย่อ “ป.” นั้น เราหวังอย่างนั้น ว่าจะทำความจริงให้ปรากฎ ดีเอสไอในฐานะผู้รวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ ในคดี ก็ต้องชี้แจงกับกมธ. เพราะสังคมอยากรู้ ทางกมธ..จะเป็นสื่อกลาง ดำเนินการอย่างเต็มที่
เมื่อถามว่า กมธ.ติดใจหรือไม่ที่นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งเด้งพ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล ออกจากอธิบดีดีเอสไอ เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ประธานกมธ.การเกษตรฯ กล่าวว่า ก็ชวนให้สงสัยได้ว่า ทำไมถึงมีการโยกย้าย เพราะที่ผ่านมานายกฯก็แสดงอาการไม่ค่อยพอใจการทำงานของทางดีเอสไอ หลังจากที่ดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบห้างร้านค้าปลีกภายในวันเดียว ก็มีการโยกย้ายทันที ก็จะได้ติดตามดูข้อมูลต่อไป ว่า นายกฯจะเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้หรือไม่ นายกฯ ก็ต้องชี้แจงกับประชาชนให้เข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริง ว่า ที่ดีเอสไอเข้าไปดำเนินการแล้วทำไมถึงถูกโยกย้าย ขณะที่ทาง รมว.ยุติธรรม ก็ออกมาบอกว่า เป็นโยกย้ายตามปกติ ไม่มีเรื่องอะไร ก็ยิ่งชวนให้สงสัยว่าปกติจริงหรือไม่
“ต้องมาดูว่าโยกย้ายด้วยประเด็นอะไร มีสาเหตุอะไรที่จะไปโยกย้าย ถ้าดูจากการที่ดีเอสไอไปตรวจห้างค้าปลีกแล้วถูกย้ายทันที ผมคิดว่าสังคมก็สงสัย ทางกมธ.ฯก็สงสัย จะได้ถามเรื่องนี้แทนประชาชน สำหรับกระบวนการที่จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ก็จะต้องดูว่ามีข้าราชการที่เกี่ยวข้องใครบ้าง 1.ได้มีการดำเนินการยกระดับการตรวจสอบขึ้นมาอย่างไร 2.จะบริหารจัดการหมูเถื่อนอย่างไร เพราะที่ผ่านมามีการตรวจสอบพบว่ามีการนำซากหมูเถื่อนไปฝังกลบตามจุดต่างๆด้วย ทางประชาชนก็กังวลว่าจะบริหารจัดการอย่างไร จะทำให้เดือดร้อนหรือไม่ เช่น ประชาชนที่จ.ปราจีนบุรี บอกว่าจับหมูเถื่อนได้ที่แหลมฉบังทำไมมาฝังกลบที่บ้านเขา เป็นต้น ถ้าการบริหารจัดการยังไม่ดีพอ ภาครัฐก็ต้องหาคำตอบให้เขาไม่กังวล” ประธานกมธ.การเกษตรฯ กล่าว
นายศักดินัย กล่าวต่อว่า กมธ.ยังต้องดูว่า กระบวนการการนำเข้าหมูเถื่อน เป็นผลเนื่องมาจากการเลี้ยงหมูในประเทศ รวมถึงต้นทุนอาหารสัตว์ที่มีราคาสูง ส่งผลให้ราคาเนื้อหมูแพง ดังนั้นการนำเข้าหมูเถื่อนที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมา ต้นทุนต้องถูกมาก ถือเป็นเรื่องที่ย้อนแย้ง กมธ.ฯก็จะตรวจสอบว่าจะมีการยกระดับ พัฒนา ปรับปรุงให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูเข้ามาแข่งขันได้ ไม่ล้มหายตายจากไป จนเหลือแต่กลุ่มผู้เลี้ยงหมูรายใหญ่ ก็เป็นเรื่องน่ากังวล อย่างไรก็ตาม กมธ.ฯ ต้องการอยากเห็นฝ่ายที่เกี่ยวข้องหาตัวผู้กระทำผิดให้ได้โดยเร็วแล้วลงโทษตามกฎหมาย เพราะปริมาณหมูเถื่อนมากมายขนาดนั้น แต่ยังไม่พบคนผิด เราอยากให้กำลังใจคนตั้งใจทำงาน แต่อย่าลงโทษคนที่ตั้งใจทำงาน ก็ต้องดูว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร
เมื่อถาม ถึงการตั้งข้อสังเกตที่มีการเด้งอธิบดีดีเอสไอ มาจากการที่ยังไม่สามารถจับกุมตัวการรายใหญ่หมูเถื่อนได้ หลังจากที่นายกฯสั่งการไป ถือเป็นการมาเด้งในจังหวะที่ความจริงใกล้จะปรากฎหรือไม่ นายศักดินัย กล่าวว่า มันไม่ควรจะเกิดขึ้นในระหว่างที่ทำงาน และเห็นภาพชัดว่ามีขบวนการใหญ่หรือไม่ ประชาชนก็สงสัย กมธ.ก็สงสัยว่าทำไมต้องมาดำเนินการในจังหวะนี้ ในความเห็นส่วนตัวของตนคิดว่า ควรจะให้เขาทำงานต่อ เพื่อที่จะได้ทำงานพิสูจน์หาข้อเท็จจริงมาให้ได้ ดังนั้นที่มีการโยกย้ายในระหว่างที่เขาทำงานอยู่ กมธ.ก็คงจะได้สอบถามทางรัฐบาลเหมือนกันว่าอะไรคือสาเหตุ โดยเฉพาะนายกฯ ควรชี้แจง ไม่ควรปล่อยให้สังคมสงสัยแบบนี้