จับเรือประมงอินโดฯ 2 ลำพร้อม 29 ลูกเรือลักลอบทำประมงในน่านน้ำไทย

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม เวลา 20.00 น. ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3(ศรชล.ภาค3)  ได้รับรายงานจาก ไต๋เรือประมง “มโนชัยนาวี 1” ว่า ขณะทำการประมงอยู่บริเวณพิกัด 07°19.36’N 97°26.86’E ได้พบเห็นเรือประมงสัญชาติอินโดนีเซียจำนวนหลายลำ ลักลอบทำการประมงในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของไทย เมื่อส่ง ฮ.ลล.4 (S-76B) บินลาดตระเวนตรวจสอบพบกลุ่มเรือประมงต่างชาติตามพิกัดที่ได้รับแจ้ง จึงทำการส่ง เรือ ต.111 และ เรือ ต.272 ออกเรือทำการลาดตระเวน

ทั้งนี้ เรือ ต.111 และ เรือ ต.272 สามารถจับกุมเรือประมงสัญชาติอินโดนีเซียในพื้นที่ดังกล่าวได้ 2 ลำพร้อมลูกเรือทั้งหมด 29 คน จึงควบคุมทั้งเรือและลูกเรือทั้งหมดกลับเข้าฝั่งที่ท่าเรือรัษฎา  อ.เมือง จ.ภูเก็ต ทำการสอบสวนและส่งต่อพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง จังหวัดภูเก็ต ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2566 เป็นต้นมา สามารถจับกุมได้ 1 ครั้งที่จังหวัดสตูลเป็นเรือประมง สัญชาติมาเลเซีย จำนวน 2 ลำ ลักลอบทำการประมงใกล้กับเกาะตระหง่าน  จังหวัดสตูล ส่งเจ้าหน้าที่ดำเนินคดี ทางประเทศมาเลเซียได้มาเสียค่าปรับและไถ่ตัวผู้ต้องหากลับไปยังประเทศมาเลเซียแล้ว ส่วนเรือของกลางยังอยู่ในท่าเรือละงู อำเภอละงู จังหวัดสตูลและศาลจังหวัดสตูลพิจารณา ให้เรือตกเป็นของแผ่นดิน และในครั้งนี้จับกุมได้ อีก 2 ลำ เป็นเรือประมง สัญชาติอินโดนีเซีย  จับกุมในน่านน้ำเขตเศรษฐกิจจำเพาะห่างจากภูเก็ต 40 ไมล์ทะเล

ด้าน น.ส.พิมพิสุทธิ์ สาระณะ  นิติกร ปฏิบัติการ สำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ข้อกล่าวหา เบื้องต้น แจ้งเป็นมาตรา10 เป็นเรือไร้สัญชาติเข้ามาทำการประมงและมาตรา 36 เป็นเรือประมงพาณิชย์ที่ทำการประมงโดยไม่ได้รับใบอนุญาตส่วนเรือไร้สัญชาติจะต้องพิจารณากรณีเป็นเรือมีหมายเลขทะเบียนเรือหรือไม่ จึงต้องตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง มีโทษทั้งจำและปรับ ตั้งแต่ 100,000 บาทถึง 200,000 บาทเป็นจำนวน 5 เท่าของมูลค่าสัตว์น้ำ

ข่าว/ภาพ : อชัถยา ชื่นนิรันดร์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดภูเก็ต


 

Message us