เมื่อวันที่ 6 ส.ค. พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้รับการประสานงานจาก กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ว่า มีขบวนการค้ายาเสพติดข้ามประเทศจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าทาง จ.ระนอง ส่งไปยังประเทศที่ 3 ผ่านหลายจังหวัด โดยจะลำเลียงลงเรือในพื้นที่ จ.สงขลา และ จ.นครศรีธรรมราช จึงสั่งการให้ กก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช ออกสอบสวนสืบสวนและติดตามจับกุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.
โดยเจ้าหน้าที่ได้แกะรอยเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่องเกือบ 3 เดือน กระทั่งวันที่ 4 ส.ค.พบว่าแก๊งค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ใช้รถ 2 คัน เป็นรถบรรทุก 6 ล้อทึบมีคนขับ 1 คน และรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นปาเจโร สีขาว มีชายฉกรรจ์อยู่ในรถ 2 คนขับนำหน้า เมื่อถึงบริเวณปั้มน้ำมัน ปตท.ริมถนนสาย นคร-สงขลา หมู่ 6 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช รถบรรทุกได้จอดริมถนน ส่วนรถปาเจโร่ขับเลยไปจอดข้างหน้าห่างกันประมาณ 1 กม.
เจ้าหน้าที่ได้รายงานสถานการณ์ให้ผู้บังคับบัญชาทราบเป็นระยะ และรอดูความเคลื่อนไหวอยู่ประมาณ 30 นาที ก่อนจะเข้าไปตรวจค้นจับกุมรถบรรทุกเป้าหมายสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน เป็นคนในพื้นที่ 3 จังหวัดภายแดนภาคใต้ และตรวจยึดรถบรรทุกได้ตรวจสอบ ในขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่อีกส่วนได้เข้ารีบเข้าทำการจับกุมรถปาเจโร่ที่จอดห่างกันประมาณ 1 กม.แต่ปรากฏว่ารถปาเจโรได้ไหวตัวทัน ขับหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด
ทั้งนี้ ในรถบรรทุกนั้นตรวจพบยาเสพติด เคตามีน (ketamine) หรือ “ยาเค” บรรจุในกระสอบ 62 กระสอบ ในถุงเล็กอีกจำนวนหนึ่ง รวมน้ำหนักยาเคทั้งหมดถึง 851 กก.โดยในประเทศจะมีมูลค่ากว่า 225 ล้านบาท แต่หากหลุดออกไปประเทศที่ 3 ราคาจะเพิ่มขึ้นประมาณ 10 เท่าตัว หรือประมาณกว่า 2,550 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติดทั้งหมดไปตรวจนับและลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานต่อไป
สำหรับ เครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติกลุ่มนี้มีตัวการใหญ่อยู่ จ.ลำปาง มีเครือข่ายทั้งในประเทศเมียนมาร ไทย และมาเลเซีย มีผู้ปฏิบัติการทำหน้าที่ลำเลียงเข้ามาเป็นคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งหมด จากการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าจะสามารถสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมเพื่อเชื่อมโยงถึงเครือข่ายของแก๊งยาเสพติดข้ามชาติกลุ่มนี้ โดยจะเร่งสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกไล่ล่าจับกุมมาดำเนินคดีตามกฏหมายให้ได้ต่อไป
