
นายมะยูโซะ กูเตะ นายอำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย นายสันตภพ นิลภูศรี ปลัดอำเภองานป้องกัน นางสาวนูรียะห์ บุญญามินทร์ ปลัดอำเภอรับผิดชอบงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ นายอาฟันดี เดง ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำตำบลลางา ร่วมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ที่ส่งผลให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ตำบลลุโบะยิไร และตำบลลางา
ทั้งนี้ อำเภอมายอ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำท่วมขังจำนวน 7 ตำบล 34 หมู่บ้าน ผู้ประสบภัย จำนวน 3,614 คน 1,000 ครัวเรือน น้ำเอ่อล้นบนถนนสาย 4092 (บริเวณสามแยกตะบิงตีงี) ปิดเส้นทางจราจร ระยะทางประมาณ 300 เมตร โดยในเบื้องต้นได้สั่งการให้ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำตำบลทุกตำบล ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ และกองร้อยทหารพรานในพื้นที่ ดำเนินการสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ดังกล่าวต่อไป
อย่างไรก็ตาม ยังเกิดน้ำท่วมขังถนนหนองจิกบริเวณหน้าบิ๊กซีปัตตานี น้ำท่วมขังถนนเจริญประดิษฐ์หรือถนนสายหน้า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี กลายเป็นสถาพคลอง เพื่อรอการไหลลงท่อระบายน้ำทั้งสองข้างถนนดังกล่าว หลังจากเกิดจากฝนตกหนักตลอด 2 วัน

นอกจากนั้น ในพื้นที่สายบุรีก็เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ เจ้าหน้าที่ต้องระดมการช่วยเหลือทั้งอาสาสมัครเข้าไปให้การช่วยเหลือยกข้าวของเอาไฟที่สูง เนื่องจากน้ำมาเร็วมาก เนื่องจากสภาพพื้นที่โดยรวมทั้งจังหวัดมีน้ำเต็มพื้นที่ทาแล้วหลังจากที่เกิดฝนตกหนักในพื้นที่มาก่อนหน้านี้ เมื่อเกิดภาวะฝนตกหนักอีกจึงทำให้ในหลายพื้นที่เกิดภาวะน้ำท่วมขังเพื่อรอการระบาย ในส่วนของจังหวัดปัตตานียังคงมีหลายพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมจากฝนตกหนักตลอดทั้ง 2 วัน มีการแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยามาเป็นระยะให้เฝ้าระมัดระวังจากภาวะฝนตกหนักในหลายพื้นที่อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน
ขณะที่ จังหวัดนราธิวาสได้แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยริมแม่น้ำสายบุรี เฝ้าระวังระดับน้ำที่อาจสูงขึ้น ขอให้ติดตามสถานการณ์น้ำและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด จากฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพื้นที่ได้รับผลกระทบ 3 อำเภอ 8 ตำบล 25 หมู่บ้าน 357 ครัวเรือน 1,535 คน

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส ได้รับแจ้งเหตุอุทกภัย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 3 อำเภอ 8 ตำบล 25 หมู่บ้าน 357 ครัวเรือน 1,535 คน
ขณะที่ พื้นที่ ตำบลลุโบะสาวอ อำเภอบาเจาะมีพื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวน 3 หมู่บ้าน ได้แก่พื้นที่หมู่ที่1, 2, 5 ต.ปะลุกาสาเมาะ มีพื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวน 2 หมู่บ้าน ได้แก่พื้นที่หมู่ที่ 4, 7 และตำบลกาเยาะมาตี มีพื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวน 3 หมู่บ้าน ได้แก่พื้นที่หมู่ที่ 1, 3, ส่วน ตำบลบางปอ อำเภอเมือง มีพื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวน 1 หมู่บ้าน ได้แก่พื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลกะลุวอ มีพื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวน 2 หมู่บ้าน ในพื้นที่หมู่ที่ 5, 8 และพื้นที่ตำบลกะลุวอเหนือ มีพื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวน 6 หมู่บ้าน ได้แก่พื้นที่หมู่ที่ 2, 5, 6, 7, 8, และหมู่ที่ 9 ขณะที่พื้นที่อ.ระแงะ ตำบลมะรือโบตก มีพื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวน 3 หมู่บ้าน ได้แก่พื้นที่หมู่ที่2, 6, 8 และ ตำบลตันหยงมัส ในพื้นที่หมู่ที่2, 3, 6, 7, และหมู่ที่ 9
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าบ้านเรือนได้รับความเสียหาย (บางส่วน) จำนวน 64 หลัง ซึ่งทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส ได้ประสานทางอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้เข้าให้การช่วยเหลือแล้วเบื้องต้น

ขณะที่แนวโน้มสถานการณ์ ปริมาณฝนในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น และระดับน้ำในลุ่มน้ำ 3 สายหลัก เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ระดับน้ำในแม่น้ำสายบุรี อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังแล้ว จึงขอแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณริมแม่น้ำสายบุรี บริเวณชุมชนท่าเรือ ตำบลบาตง ชุมชนนาโอน ตำบลรือเสาะออก อำเภอรือเสาะ ชุมชนบ้านซากอ บ้านตะโล๊ะ ตือโละ ตำบลศรีสาคร ชุมชนบ้านจือแรง ตำบลตะมะยูง พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว ให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่อาจสูงขึ้น ทั้งนี้ขอให้ติดตามสถานการณ์น้ำและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ขณะนี้มีฝนตกหนักลมแรง ทำให้ต้นไม้ป่าโน้มหัก ลงทับสายไฟฟ้าและทำให้เสาไฟล้มหัก บริเวณควนโต๊ะนิ (3 แยก บ.กม.27 ขึ้น สายบน ) PEAเบตง มีความจำเป็นต้องดับกระแสไฟฟ้า เพื่อทำการ กู้ระบบ ปักเสา และ พาดสายไฟฟ้า และต้องใช้เวลาในการปฏิบัติงาน ทาง PEA เบตงจะรีบแก้ไข และ จะเร่งจ่ายกรแสไฟฟ้าให้กลับเป็นปกติโดยเร็วที่สุด
ข่าว/ภาพ : อับดุลเลาะ เบ็ญญากาจ