
นายวุฒิพันธุ์ ปริดิพันธ์ รองผู้จัดการทั่วไป สายงานปฏิบัติการ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า วันแรกของโครงการ พบว่าได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการ SMEs ที่ บสย. ได้จ่ายค่าประกันชดเชย หรือ ลูกหนี้ บสย. เดินทางมาขอคำปรึกษา และเข้าร่วมมาตรการปรับโครงสร้างหนี้กับ บสย. ที่บูธกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งลูกหนี้ “กลุ่มเปราะบาง” เงินต้นไม่เกิน 200,000 บาท

ทั้งนี้ ล่าสุด บสย. ได้เปิตดัวมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มนี้โดยเฉพาะ และลูกหนี้ SMEs ทั่วไป ภายใต้มาตรการ 3 สี “ม่วง เหลือง เขียว” เป้าหมายของโครงการมุ่งตอบโจทย์นโยบายภาครัฐ เพื่อแก้หนี้ให้ผู้ประกอบการ SMEs ลดภาระทางการเงิน ปลดหนี้ แก้หนี้ยั่งยืน และสามารถเดินหน้าต่อได้ตลอดวันนี้ มีผู้ประกอบการ SMEs หลากหลายกลุ่มเดินทางมาที่บูธกิจกรรมเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ ยกตัวอย่าง ผู้ประกอบการธุรกิจขายเสื้อผ้าที่ตลาดร่มหุบ แม่กลอง ได้รับผลกระทบจากโควิด เป็นหนี้เสีย ซึ่ง บสย. จ่ายค่าประกันชดเชยเมื่อปี 2566 มีหนี้เงินต้น 190,000 บาท และดอกเบี้ยค้างประมาณ 20,000 บาท เดินทางมาที่บูธเพื่อเจรจาขอปรับโครงสร้างหนี้ ได้รับความช่วยเหลือผ่านมาตรการลูกหนี้ “กลุ่มเปราะบาง” ปลดหนี้ปิดบัญชี โดยจ่ายเงินก้อนแรกเพียง 500 บาท และได้รับส่วนลดเงินต้น 30% พร้อมยกดอกเบี้ยค้างทั้งหมด

นายวุฒิพันธุ์ กล่าวว่า SMEs ที่สนใจเข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้กับ บสย. สามารถลงทะเบียนผ่าน LINE OA : @tcgfirst หรือสามารถลงทะเบียนที่บูธกิจกรรม “บสย. พร้อมค้ำ พร้อมช่วย” นอกจากนี้ บสย. ยังมีวงเงินค้ำประกันสินเชื่อภายใต้โครงการ PGS 11 “บสย. SMEs ยั่งยืน” อีกกว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเขตในพื้นที่ หรือ บสย. Call Center โทร. 02-890-9999