
เมื่อวันที่ 18 เมษายน นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายอำเภอดอนสัก ว่า พบคราบน้ำมันลอยมาติดชายหาดบริเวณบ้านนางกำ หมู่ที่ 10 ตำบลดอนสัก อำเภอดอนสัก ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อบ่ายวันที่ 17 เมษายน ซึ่งตรวจสอบพิสูจน์ได้ว่าเป็นคราบน้ำมันที่เกิดจากการรั่วไหลจากเรือราชาเฟอรี่ R10 ที่ประสบเหตุกระแทกเสาท่าเรือจนตะแคงจมน้ำลึกประมาณ 4 เมตรเมื่อวันที่ 16 เมษายน
นายวิชวุทย์ กล่าวว่า ได้เดินทางไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพร้อมด้วย ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสุราษฎร์ธานี ผู้แทนสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 14 และผู้แทนสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุราษฎร์ธานี พบคราบน้ำมันลอยมาติดชายหาดนางกำ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร

ทั้งนี้ จึงได้สั่งการให้นายอำเภอดอนสัก และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอนสัก เร่งประสานขอความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ จัดเก็บคราบน้ำมันที่อยู่ติดตามหาดทรายและโขดหิน โดยใช้รถตัก JCB ดำเนินการตักทรายที่ติดคราบน้ำมันออกไปกำจัดอย่างถูกวิธี และฉีดพ่นน้ำยาขจัดคราบน้ำมันชีวภาพ เพื่อขจัดคราบน้ำมันที่ติดตามโขดหินบริเวณชายหาดให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อมบริเวณชายหาดรวมทั้งกำชับให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสุราษฎร์ธานี กำกับการกู้เรือโดยมิให้มีคราบน้ำมันไหลออกสู่ท้องทะเลอีก
“ขณะนี้ เจ้าหน้าที่สามารถกำจัดคราบน้ำมันบริเวณชายหาดนางกำได้แล้ว และบริษัทเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการอุดรูรั่วเพื่อมิให้น้ำมันไหลออกจากตัวเรือแล้ว นอกจากนี้ ได้สั่งการให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสุราษฎร์ธานี ศึกษาข้อกฎหมายและระเบียบต่างๆ ว่าจะสามารถฟ้องร้องเอาผิดกับบริษัทเรือราชาเฟอร์รี่ ได้อย่างไรบ้าง เพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก” นายวิชวุทย์ กล่าว
