
ในวันอังคารที่ 3 ธันวาคม 2567 ณ พระลานพระราชวังดุสิต ทหารรักษาพระองค์จะเข้าร่วมในพิธีอันทรงเกียรติ “สวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์” ซึ่งเป็นประเพณีสำคัญที่สะท้อนถึงความจงรักภักดีและเกียรติภูมิของกองทัพไทย
ในโอกาสนี้ ทหารรักษาพระองค์จะปรากฏตัวในเครื่องแบบเต็มยศที่แสดงถึงความสง่างามและความประณีตของศิลปะการทหารไทย ตั้งแต่หมวกประดับพู่สีสดใสตามหน่วย ไปจนถึงชุดเครื่องแบบที่จัดแต่งอย่างวิจิตรบรรจง พร้อมอาวุธประจำกายที่สะท้อนถึงความพร้อมเพรียงและความมีระเบียบวินัย

พิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตน ถือเป็นการย้ำเตือนถึงภารกิจสำคัญของทหารรักษาพระองค์ในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นโอกาสที่ประชาชนชาวไทยจะได้ร่วมชื่นชมในความสามัคคี ความกล้าหาญ และความจงรักภักดีของเหล่าทหาร
ขอเชิญประชาชนและผู้สนใจร่วมชมความยิ่งใหญ่ของพิธีดังกล่าว เพื่อเป็นกำลังใจแก่เหล่าทหารรักษาพระองค์ พร้อมชื่นชมในขนบธรรมเนียมและมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าที่สะท้อนผ่านการแสดงอันทรงเกียรตินี้

ด้วยเกียรติยศของชาติ อยู่ในหัวใจของทหารไทยทุกคน โอกาสนี้ กองทัพไทยขอเชิญชวนประชาชนร่วมภาคภูมิใจผ่านพิธีแห่งเกียรติยศนี้ไปด้วยกัน
เพจเฟซบุ๊ก “พระลาน” เผยแพร่ข้อมูล ครั้งแรกในรัชสมัยรัชกาลที่ 10 พิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ พุทธศักราช 2567 เพื่อแสดงออกถึงความพร้อมเพรียง ความสามัคคี ของทหารทุกเหล่าทัพ ความจงรักภักดี และถวายพระเกียรติยศสูงสุดแด่องค์พระประมุขในฐานะองค์จอมทัพไทย

เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฏาคม 2567 วันอังคารที่ 3 ธันวาคม 2567 เวลา 16.00 น. ณ พระลานพระราชวังดุสิต
กองทัพไทย ขอเชิญชวนพสกนิกรทุกหมู่เหล่า เข้าร่วมรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
เนื่องในพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ ประจำปี พ.ศ. 2567 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา ณ พระลานพระราชวังดุสิต หรือรับชมการถ่ายทอดสดพิธีฯ ผ่านโทรทัศน์รวมกันเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ในวันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2567 ตั้งแต่เวลา 16.00 นาฬิกา นับเป็นการสวนสนามครั้งแรกในรัชกาลที่ 10 อันเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี ความเข้มแข็ง และความพร้อมเพรียงของกองทัพไทย เพื่อถวายพระเกียรติยศสูงสุดแด่องค์จอมทัพไทย

ความหมายเพลง “ราชสวัสดิ์”
พิธีฯ ในครั้งนี้ จะมีการร่วมกันร้องเพลงราชสวัสดิ์ถวายแด่รัชกาลที่ 10 โดยเพลงราชสวัสดิ์มีความหมายเป็นการสอนหลักปฏิบัติของผู้ที่จะรับใช้ใกล้ชิดพระมหากษัตริย์ สอนทั้งหลักปฏิบัติในการเป็นข้าราชการ และหลักปฏิบัติให้ตนเป็นคนดี เพื่อให้ดำเนินชีวิตด้วยดีในสังคม หรือหลักปฏิบัติราชการ นับเป็นข้อปฏิบัติที่จะนำไปสู่ความเจริญก้าวหน้าในการรับราชการ หรือในการทำงานได้เป็นอย่างดี
เพลงราชสวัสดิ์ เป็นบทพระราชนิพนธ์ ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 พระราชทานไว้เพื่อเป็นข้อเตือนใจและข้อปฏิบัติแก่ราชสำนัก

รู้จัก “ธงไชยเฉลิมพล”
ธงชัยเฉลิมพล เป็นธงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพิธีทางศาสนาด้วยพระองค์เอง คือ พระราชพิธีตรึงหมุดธงชัยเฉลิมพล ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ท่ามกลางพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ชั้นผู้ใหญ่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตรึงธงแต่ละผืนติดกับด้ามธง โดยทรงตอกฆ้อนเงินลงบนตะปูทองเหลือง ส่วนบนของคันธงจะมีลักษณะเป็นปุ่มโลหะกลึงกลมสีทองภายในกลวง ปุ่มกลมนั้นทำเป็นฝาเกลียวปิด – เปิดได้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงบรรจุเส้นพระเจ้า (เส้นพระเกศา) พร้อมด้วยพระพุทธรูปที่เข้าพีพุทธาภิเษกแล้ว ชื่อ พระยอดธง ลงในปุ่มกลม แล้วทรงปิดฝาเกลียวขันแน่น ทรงเจิมแป้งกระแจะจันทน์ที่ยอดธงทุกคัน พระสังฆสวดชัยมงคลคาถา ตั้งแต่เริ่มพิธีจนจบพิธี และจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานธงชัยเฉลิมพลให้แก่หน่วยทหารในสังคมกระทรวงกลาโหม ประกอบด้วย หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก ก่องทัพเรือ และกองทัพอากาศ

โดยผืนธง หมายถึง ชาติ พระพุทธรูปบนยอดธง หมายถึง พระพุทธศาสนา และเส้นพระเจ้าของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หมายถึงพระมหากษัตริย์
ธงชัยเฉลิมพล จึงเป็นธงประจำหน่วยทหารที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของทหารเป็นเกียรติยศของหน่วยทหารนั้น ๆ เมื่อเวลาเข้าสู่สงคราม หทารทั้งปวงต้องพิทักษ์รักษาธงชัยเฉลิมพลของหน่วยตนไว้ด้วยชีวิต ธงชัยเฉลิมพลจึงเป็นเครื่องนำความองอาจแห่งหมู่ทหารให้ได้รับชัยชนะต่อข้อศึกด้วยความกล้าหาญ เป็นสิ่งที่ทหารทุกคนต้องรักษาไว้ยิ่งกว่าชีวิต และเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นนายทหาร หรือพลทหาร ต่องผ่านพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล จึงถือว่าเป็นทหารอย่างสมบูรณ์แท้จริง

ความสำคัญของพิธีสวนสนาม และการถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์
- การแสดงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นประมุขของประเทศและเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนไทย
- ส่งเสริมการสร้างความสามัคคีที่ทหารจากหน่วยต่าง ๆ จะได้มาร่วมกันแสดงความพร้อมและความสามัคคี เป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับกองทัพไทย
- ส่งเสริมวินัยและความพร้อม แสดงความมีระเบียบวินัยและการฝึกฝนอย่างเข้มงวด ซึ่งเป็นการส่งเสริมความพร้อมและความสามารถของทหารในการปฏิบัติหน้าที่
- สร้างแรงบันดาลใจ ให้กับเยาวชนและประชาชนในการรักษาความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อสังคมและประเทศชาติ
- เสริมสร้างภาพลักษณ์ของกองทัพ การแสดงความสามารถและเสริมสร้างภาพลักษณ์ของกองทัพไทยให้เป็นที่ยอมรับและน่าเชื่อถือในสายตาของประชาชนและนานาชาติ

คำถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์
นอกจากจะร่วมกันร้องเพลงราชสวัสดิ์แล้ว ยังมีการสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ด้วย เพื่อแสดงออกให้นานาประเทศเห็นความผาสุกร่วมเย็นของราชอาณาจักรไทย โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์กลาง ซึ่งคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ ประกอบด้วย

ขอเดชะ ฝ่าละอองรู้สีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า (ยศ-ชื่อ-นามสกุล) ขอกวายคำสัตย์ปฏิญาณ ต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทว่า ข้าพระพุทธเจ้า จักยอมตาย เพื่อรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพ แห่งพระมหากษัตริย์เจ้า ข้าพระพุทธเจ้า จักจงรักภักดี และถวายความปลอดภัยต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท จนชีวิตหาไม่ ข้าพระพุทธเจ้า จักเชิดชูและรักษาไว้ ซึ่งเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ ของทหารรักษาพระองค์ ทั้งจักปฏิบัติตน ให้เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทุกประการ พระพุทธเจ้าข้าขอรับ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ


