
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันเดียวกันนี้ได้ให้ความเห็นชอบในเรื่องของหนี้สิน คือการพักหนี้เอสเอ็มอี การช่วยเหลือหนี้นอกระบบ ลูกหนี้รายย่อยที่เกิดจากวิกฤติโควิดที่ผ่านมา
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติ ครม.ว่า ครม.มีมติอนุมัติแนวทางการแก้ไขหนี้ทั้งระบบ ดังนี้ 1.ให้ความเห็นชอบมาตรการจำนวน 3 มาตรการ ดังนี้ 1.มาตรการช่วยเหลือพักหนี้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม ที่ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) วงเงิน 400 ล้านบาท
2.มาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบวงเงิน 4,500 ล้านบาท
3.มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ตามโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19
โดยขออนุมัติงบประมาณจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีจำนวน 4,900 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 มาตรการคือ มาตรการช่วยเหลือพักหนี้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จำนวน 400 ล้านบาท และมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบจำนวน 4,500 ล้านบาท
“การแก้ไขหนี้ในระบบและหนี้นอกระบบ จะช่วยแบ่งเบาภาระหนี้ของลูกหนี้ในระบบ ช่วยเหลือให้ลูกหนี้ที่มีหนี้นอกระบบสามารถกลับเข้ามาในระบบได้ และป้องกันไม่ให้ลูกหนี้ที่มีหนี้ในระบบกลับไปเป็นหนี้นอกระบบได้อีก สามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ช่วยให้ประชาชนสามารถผ่อนชำระหนี้ได้สอดคล้องกับศักยภาพในการหารายได้ พร้อมทั้งผลักดันให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้อย่างเหมาะสมเป็นธรรม” นายคารมกล่าว