เมื่อวันที่ 22 เมษายน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ที่ประชุมครม. ได้อนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ประกอบด้วยการอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวนเงิน 781.88 ล้านบาท สำหรับจ่ายเป็นเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในช่วงฤดูฝน ปี2567 เพิ่มเติม และอนุมัติระยะเวลาสำหรับดำเนินการการเพื่อจ่ายเงินให้แก่ผู้ประสบภัยตามหลักเกณฑ์ภายใน 15 วันทำการ นับแต่วันที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้ ในส่วนของกรอบระยะเวลาดำเนินการนี้ จะมีผลถึงการขยายระยะเวลาให้กับการดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือซึ่งได้รับอนุมัติจาก ครม. เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2567 และ 18 ก.พ. 2568 เนื่องจากยังมีผู้ประสบภัย ได้ลงทะเบียนขอรับการช่วยเหลือตามมติ ครม. ห้วงเวลาดังกล่าว ยังอยู่ในขั้นตอนรอการโอนเงินช่วยเหลือแต่กรอบระยะเวลาดำเนินโครงการสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2568 ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลืออย่างครบถ้วน จึงขยายระยะเวลาให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันทำการ นับแต่ได้รับการจัดสรรงบประมาณในครั้งนี้ด้วย
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กรอบวงเงินงบประมาณเพิ่มเติม 781.88 ล้านบาท จะใช้จ่ายสำหรับจ่ายเงินช่วยเหลือสำหรับอุทกภัยที่เกิดขั้นใน 2 ช่วง ได้แก่ 1) เกิดสถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. 67 – 2 พ.ย. 2567 ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท บุรีรัมย์ สมุทรสาคร และจังหวัดสิงห์บุรี 2) เกิดสถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. 2567 – 31 ธ.ค. 2567 ในพื้นที่ 13 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ประจวบคีรีขันธ์ ตรัง พัทลุง ยะลา ระนอง สงขลา สตูล และจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยครัวเรือนที่จะได้รับความช่วยเหลือจะต้องไม่เป็นครัวเรือนที่ได้รับความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในช่วงฤดูฝน ปี 2567 มาแล้ว
“การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามมติ ครม. วันที่ 3 ธ.ค. 2567 และ 18 ก.พ. 2568 มีกำหนดสิ้นสุดระยะเวลาการช่วยเหลือไปเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2568 แต่เนื่องจากการดำเนินการต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลผู้ประสบภัยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร ประกอบกับมีจำนวนครัวเรือนผู้ประสบภัยที่เป็นไปตามมติ ครม. มากกว่าจำนวนที่ ครม. มีมติเห็นชอบอนุมติกรอบวงเงินไว้แล้ว ซึ่งขณะนี้ ยังคงมีผู้ประสบอุทกภัยที่จังหวัดตรวจสอบยืนยันแล้ว รออยู่ในกระบวนการจ่ายเงินคงเหลืออยู่อีก 86,876 ครัวเรือน ที่คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณประมาณ 781.88 ล้านบาท กระทรวงมหาดไทยจึงเสนอ ครม. อนุมัติทั้งกรอบงบประมาณเพิ่มเติมและกรอบระยะเวลาดำเนินการในครั้งนี้ เพื่อให้การช่วยเหลือถึงผู้ประสบภัยอย่างครบถ้วน มีเงินใช้จ่ายเพื่อการดำรงชีพสู่ภาวะปกติโดยเร็วต่อไป” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
สำหรับ ผลการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2567 และ 18 ก.พ. 2568 ภายใต้วงเงินงบประมาณรวม 8,693.51 ล้านบาท มีความคืบหน้าใน 3 ส่วน ประกอบด้วย 1) ดำเนินการจ่ายเงินให้แก่ผู้ประสบภัยแล้ว จำนวน 596,307 ครัวเรือน จำนวนเงิน 5,366.76 ล้านบาท 2) อยู่ระหว่างโอนจ่ายเงินให้แก่ผู้ประสบภัย จำนวน 402,437 ครัวเรือน จำนวนเงิน 3,621.93 ล้านบาท และ 3) อยู่ระหว่างปรับปรุงสถานะบุคคล จำนวน 3,532 ครัวเรือน จำนวนเงิน 31.78 ล้านบาท
