เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่บริเวณที่ตั้ง ประติมากรรม อนุสรณ์สถานแม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์ บ้านศรีบุญเรือง หมู่ 11 ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม นายสวาท ลำทอง นายก อบต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ร่วมกับ สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครพนม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ท้องถิ่น ตลอดจนตัวแทนชาวบ้าน พสกนิกรชาว จ.นครพนม น้อมจัดงานทำบุญถวายเป็นพระราชกุศล ในหลวงรัชกาลที่ 9 พร้อมจัดงาน “น้อมรำลึก 67 ปี ดอกไม้แห่งหัวใจ ไม่มีวันโรยรา” แม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์ คุณยาย อายุ 102 ปี ที่เคยมาแสดงออกถึงความจงรักภักดี เฝ้ารับเสด็จ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ครั้งเมื่อเสด็จเยี่ยมพสกนิกรชาวนครพนม รวมถึงเสด็จบำเพ็ญกุศล ณ วัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม
ทั้งนี้ ระหว่างเส้นทางเสด็จกลับ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงเยี่ยมพสกนิกรที่เฝ้ารับเสด็จ พร้อมรับดอกบัว 3 ดอกจากแม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์ คุณยาย อายุ 102 ปี จนกลายเป็นภาพแห่งความประทับใจ ของพสกนิกรชาวไทย มาแต่อดีตถึงปัจจุบัน ยาวนานมากว่า 67 ปี โดยทางจังหวัดนครพนม ได้ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง มีการก่อสร้างปฏิมากรรมหินแกะสลักภาพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงโน้มพระองค์ลงมาจนพระพักตร์เกือบชิดกับศีรษะของแม่เฒ่าตุ้ม ไว้บริเวณ บ้านศรีบุญเรือง หมู่ 11 ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม เมื่อปี 2558
สำหรับ กิจกรรมในครั้งนี้มีการทำบุญถวายภัตตราหารแด่พระภิกษุสงฆ์ และร่วมรับฟังเสวนาในหัวข้อส่งเสริมสนับสนุนให้ท้องถิ่นได้ตระหนัก และเห็นความสำคัญสิ่งที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม เพื่ออนุรักษ์สืบสานประเพณีอันดีงาม อีกทั้งยังเป็นการ กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ของ จ.นครพนม และประชาสัมพันธ์สถานที่สำคัญให้เป็นที่รู้จักของประชาชนน ท่องเที่ยว ที่สำคัญยังเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ขณะเดียวกันกลายเป็นที่ฮือฮาของนักเสี่ยงโชคต่างพากัน นำเลขมงคลคือ 13 และยังตรงกับเลขขันน้ำมนต์ที่ประกอบพิธี คือ 913 นำไปเสี่ยงโชค ตามประเพณีความเชื่อ
ด้าน นายบรม จันทะนิตย์ อายุ 82 ปี หลานชายแม่เฒ่าตุ้ม กล่าวถึงความรู้สึกด้วยความภาคภูมิใจว่า ตลอดเวลากว่า 67 ปี ที่ผ่านมาตนยังจำถึงความรู้สึกตื่นเต้นขณะนั้นอายุได้ 15 ขวบ เมื่อทราบข่าวว่า ในหลวงจะเสด็จผ่านหมู่บ้าน เส้นทางนครพนม – ธาตุพนมเพื่อไปยังวัดพระธาตุพนม ทำให้ชาวบ้านรวมถึงคนในครอบครัวและแม่เฒ่าตุ้ม หรือย่าตุ้ม เพราะคุณพ่อเป็นลูกชายคนสุดท้องของแม่เฒ่าตุ้ม ต่างพากันเตรียมตัวเพื่อไปรอเฝ้ารับเสด็จชื่นชมพระบารมี เนื่องจากเกิดมาทั้งชีวิตโอกาสที่จะได้ไปเฝ้ารับเสด็จคงไม่มีโอกาส จำได้ว่าแม่เฒ่าตุ้มในวัย 102 ปี ยังคงแข็งแรง ได้มีความตั้งใจที่จะไปนั่งเฝ้ารอรับเสด็จตั้งแต่เช้าตรู่ พร้อมดอกบัว 3 ดอก ไว้รอทูลเกล้าถวายหากมีโอกาส ขณะที่ตนไม่ได้มีโอกาสเข้าไปถึงจุดริมถนนเพราะคนจำนวนมากถูกกันจากเจ้าหน้าที่ จนกระทั่งเวลาสำคัญมาถึงขบวนรถพระที่นั่งวิ่งผ่านเส้นทางสร้างความตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แต่อดเสียดายไม่ได้ที่ไม่ได้มีโอกาสชื่นชมพระบารมี
ทั้งนี้ ในช่วงที่พระองค์เสด็จกลับ ไม่มีใครคาดคิดว่าขบวนรถยนต์พระที่นั่ง จะจอดบริเวณริมถนน บริเวณสามแยกชยางกูร- เรณูนคร ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม ก่อนที่ในหลวงจะเสด็จลงมาทักทายพสกนิกร ที่มารอเฝ้ารับเสด็จและรับดอกบัว 3 ดอกที่แม่เฒ่าตุ้มถือมา ในสภาพที่เริ่มเหี่ยวเฉา เพราะรอเฝ้ารับเสด็จตั้งแต่เช้าถึงเย็น ทำให้ช่างภาพส่วนพระองค์ได้บันทึกภาพไว้ พร้อมพระราชทานส่งมาให้แม่เฒ่าตุ้มและครอบครัว เก็บไว้ชื่นชมพระบารมีมาถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 67 ปี ภาพแม่เฒ่าตุ้ม ยังไม่เคยหายไปจากความรู้สึกของครอบครัว และพสกนิกรชาวไทย ตนในฐานะหลานชาย มีความซาบซึ้ง ภาคภูมิใจจนบอกไม่ถูก ถึงแม้ไม่ได้เข้าฝ้าใกล้ชิด หรืออยู่ในเหตุการณ์ แต่ยังมีความภาคภูมิใจมากที่เป็นหลานแม่เฒ่าตุ้ม มาถึงวันนี้สิ่งเดียวที่สำนึกได้คือ การทำดีเพื่อสังคม เป็นคนดีของสังคม และดูแลสั่งสอนลูกหลานให้เป็นคนดี
นายบรม กล่าวอีกว่า มาถึงวันนี้ถึงแม้แม่เฒ่าตุุ้มถึงแก่กรรมเมื่อปี พ.ศ.2501 รวมเป็นเวลากว่า 65 ปี โดยลูกหลานได้สร้างธาตุเจดีย์บรรจุอัฐิแม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์ ไว้ ณ หน้าบ้านเลขที่ 22 หมู่ที่ 11 ต.พระกลางทุ่ง องธาตุพนม ที่สำคัญรู้สึกซาบซึ้งภูมิใจที่สุดคือ จังหวัดนครพนมร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง มีการก่อสร้างอนุสรณ์สถานแม่เฒ่าตุ้ม ขึ้น ถือเป็นเรื่องดี ที่จะเป็นการสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์มีต่อปวงชนชาวไทย รวมถึงศึกษา ประวัติศาสตร์ ความภาคภูมิใจของชาว จ.นครพนม ที่เคยได้มีโอกาสเฝ้ารับเสด็จชื่นชมพระบารมีในหลวง เมื่อครั้งเคยเสด็จมาเยี่ยมพสกนิกรชาว จ.นครพนม
ข่าว/ภาพ : พัฒนพงษ์ ศรีเพียชัย
