จากกรณีที่มีผู้เสียหายที่ถูกเจ้าอาวาสวัดพืชอุดม คลอง 13 ต.พืชอุดม อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ยืมเงินไปเกือบ 10 ล้านบาทและบอกให้ผู้เสียหายไปยึดโบสถ์ยึดศาลา พร้อมกับไปร้องเพจดังให้ช่วยเหลือ ล่าสุด พระราชสุทธิธรรมจารย์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เจ้าอาวาสวัดประยูรธรรมาราม ได้เรียก เจ้าคณะอำเภอเจ้าคณะตำบล มาหารือถึงประเด็นดังกล่าว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งการหารือ ได้เรียก เจ้าอาวาสรูปดังกล่าวมาร่วมชี้แจงด้วย แต่จากการตรวจสอบไม่ได้อยู่ที่วัดและทราบว่าไปรักษาตาที่โรงพยาบาลบ้านแพ้วไม่สามารถกลับมาหารือได้ทันในวันดังกล่าว
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อว้ันที่ 5 กันยายน ที่ห้องประชุม วัดพืชอุดม หมู่ 9 ตำบลพืชอุดม อำเภอลำลูกกา นายคมสัน ญาณวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วย นายสมชาย ตรีณาวงษ์ นายอำเภอลำลูกกา ,พระครูสุวรรณวรการ ดร. เจ้าคณะอำเภอลำลูกกา ประธานฝ่ายสงฆ์ เจ้าอาวาสวัดสุวรรณบำรุงราชวราราม พระอธิการสมบูรณ์ บุญศรี อายุ 75 ปี เจ้าอาวาสวัดพืชอุดม คณะสงฆ์ฝ่ายวัดพืชอุดม ได้ร่วมกันเข้าประชุมพูดคุยเรื่องดังกล่า โดยไม่ยินให้ยอมให้สื่อมวลชนเช้ารับฟังการประชุม
ทั้งนี้ได้ข้อมูลมาว่า เมื่อวันที่ 23 กันยายน เวลา 16.00 น. พระอธิการสมบูรณ์ บุญศรี อายุ 75 ปี ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต. ธนสรณ์ แช่มข้อย พนักงานสอบสวน แจ้งว่าเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ได้มีน.ส.นันทัชพร ข่มขู่ทางผู้แจ้งให้ยินยอมรับสภาพหนี้จำนวนเงิน 9,200,000 บาท และเงินค่าจ้างค้างจ่ายสถานีวิทยุทหารอากาศมีนบุรี AM 1251 ให้กับนางจิราวัฒน์ จำนวนเงิน 230,000 บาท เป็นสภาพบังคับที่ทำให้ผู้แจ้ง ไม่สามารถหลบเลี่ยงจากการถูกบีบบังคับ ขืนใจให้กระทำในสิ่งที่ตนมิได้ ยินยอม แต่ไม่สามารถขัดขืนได้ จึงมาลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ด้าน พระอธิการสมบูรณ์ บุญศรี อายุ 75 ปี เจ้าอาวาสวัดพืชอุดม กล่าวว่า เรื่องที่ไปเซ็นรับสภาพหนี้ อาตมาไปหาคณะสงฆ์เเล้วแจ้งว่าอยู่ในสภาวะจำยอม จึงได้เซ็นชื่อไป หลังจากนั้นก็ได้ไปแจ้งความว่าถูกบังคับให้เซ็นรับสภาพหนี้ ส่วนเรื่องการยืมเงินถ้าหมายถึงการกู้ยืมนั้นไม่มี แต่ถ้ายืมปากป่าวก็ว่าไปก็เป็นการสร้างโน้นบูรณะนี่ บอกกล่าวแล้วเขาก็จะมาช่วย โดยเป็นการบริจาคแต่ละครั้งมากน้อยแตกต่างกันไปมีทั้งหมื่น 2 หมื่น 3 หมื่น 1 แสนหลังจากได้เงินมาก็เอาไปทำประโยชน์ โดยผ่านทางบัญชีของหลวงพ่อ
ขณะที่ นายอ้วน หรือ สิทธิโขค แก้วประเสริฐ์ โยมอุปัฏฐาก กล่าวว่า ที่มีการอ้างว่าจะเอาโบสถ์ไปใช้หนี้ไม่เป็นความจริง ใครจะเอาไปให้เขา เสาเหตุที่มีการทวงหนี้กันเนื่องจากผู้หญิงท่านนี้มาทำบุญที่วัดมายาวนาน 12-13 ปี โดยพระอาจารย์บอกบุญไปนั้น ถ้าใครไม่สะดวกมาทำบุญที่วัด ก็จะเป็นการโอนเงินมาทำบุญ หรือบางทีก็จะมาทำบุญที่หลวงพ่อเอง ส่วนเรื่องที่เป็นหนี้กันตนเองไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไรกันแน่ ที่กล่าวหาว่าหลวงพ่อเป็นหนี้ 9.2 ล้านบาทเป็นหนี้เกือบ 20 ปี โดยการทำบุญ เป็นการทำมาเรื่อย แต่ครั้งละเท่าไรไม่รู้ว่าตามเขาแอบอ้างเขาบอกพวกตนว่าพระอาจารย์เป็นหนี้เขารวมทั้งต้นและดอก รวมทั้งหมด 9.2 ล้านบาท แต่เงินต้นเขาไม่ได้พูดถึงว่าเป็นหนี้เท่าไร
ทั้งนี้ ตนได้ถามหลวงพ่อว่าเป็นหนี้เท่าไร พระอาจารย์ก็บอกว่าไม่เคยเป็นหนี้ ส่วนใหญ่เป็นการบอกบุญก็โอนมา แล้วก็มีการเอามาถวาย จะมีการทำบุญภายในวัดมีการนิมนต์พระมาร่วมสดมนต์ ทางวัดก็ได้บอกบุญโดยคุณผู้หญิงท่านนี้ก็บอกว่า จะช่วยทำบุญ วันนั้นเขาช่วยมาประมาณ 6-7 หมื่นบาท กรรมวัดก็ลงบัญชีไว้ แต่พอวันต่อมา เขาได้มาขอคืนเงินจากคณะกรรมการ บอกว่าไม่อยากทำแล้ว ขอคืนดีกว่า การกระทำของเขาเป็นแบบนี้บ่อยครั้ง ตนไม่รู้เขาอาจจะเป็นคนที่มี 2 บุคลิกหรือไม่ วันหนึ่งอยากทำบุญ พออีกวันก็มาขอเงินคืนทางวัดก็คืนให้ เงินที่เขาทำบุญกับวัดส่วนใหญ่จะโอนเงินเข้าบัญชีพระอาจารย์
