
นายชิดชนก สุขมงคล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วย นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ร่วมแถลงข่าวการค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ยุคน้ำแข็ง (สมัยไพลสโตซีน) และ ภาพเขียนสีโบราณที่แหล่งโบราณคดีถ้ำดินในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด บ้านพุใหญ่ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาแดง อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์

สืบเนื่องจากสำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี ได้ดำเนิน “โครงการขุดค้นศึกษาแหล่งโบราณคดีภาพเขียนสีที่ถ้ำดิน” ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด เพื่อศึกษาร่องรอยการอยู่อาศัยของคนในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ในบริเวณพื้นที่ภาคตะวันตกของประเทศไทย เป็นฐานข้อมูลทางวิชาการในการวางแผนพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวทางมรดกศิลปวัฒนธรรมและเชิงประวัติศาสตร์ ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดในอนาคต

อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า นับเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ด้านโบราณคดีของประเทศ และเป็นการค้นพบหลักฐานใหม่ของโลก ที่ได้มีการขุดพบโครงกระดูกมนุษย์อายุกว่า 29,000 ปี เทียบได้กับสมัยยุคน้ำแข็ง โดยการขุดค้นครั้งนี้ เป็นความสำเร็จร่วมกับอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ในการสำรวจเรื่องราวของมนุษย์โบราณที่เคยอาศัยอยู่ในถ้ำดิน และบริเวณชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของอ่าวไทย

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ปี 2563 ได้พบภาพเขียนสีบนผนังถ้ำ จึงเริ่มขุดค้นในคูหาที่ 3 ชิดผนังถ้ำ เนื่องจากพื้นดินมีฝุ่นขี้เถ้าไฟ ทำให้พบโบราณวัตถุประเภทขวาน เปลือกหอย กระดูกสัตว์ และเมล็ดพืชจำนวนมาก สันนิษฐานว่ามีหลักฐานคนยุคก่อนประวัติศาสตร์ จึงขุดลึกอีก 2 เมตร จนพบโครงกระดูกมนุษย์ พิจารณาฟันแล้ว คาดว่าเป็นเด็กช่วงอายุ 6-8 ปี จำนวน 1 โครง ยังไม้ระบุเพศ ตั้งชื่อโครงกระดูกนี้ว่า “ปังปอน” หลังจากส่งไปหาค่าอายุ ณ ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา ทำให้ทราบว่า มีอายุประมาณ 29,000 ปี โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อเทียบกับค่าอายุยุคมนุษย์น้ำแข็งร่วมสมัยในเชิงลึก และจะทำการขุดค้นอย่างต่อเนื่อง

ด้าน นายชิดชนก กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมากในการขุดค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ ในพื้นที่ถ้ำดิน อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด โดยกรมศิลปากรนั้นถือเป็นความร่วมมือของกรมศิลปากรและกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีอุทยานแห่งชาติ ทั้งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งในอนาคตก็คงต้องมีการจัดทำแผนบริหารจัดการร่วมกัน ทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ ก็จำนำจุดนี่มีการพบที่ถ้ำดิน มาเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทำเป็นเส้นทางท่องเที่ยว ศึกษาธรรมชาติเชื่อมโยงระหว่าง แหล่งถ้ำดินที่ขุดค้นพบ และอาจสำรวจด้วยว่าด้านบนจะมีจุดชมวิวที่เหมาะสมด้วยหรือไม่ คงต้องมีการหารือพูดคุยกันต่อไปกับทางกรมศิลปากร ก่อนเปิดให้ท่องเที่ยวต่อไป
