
เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น ประชุมร่วมกับนายอำเภอทุกอำเภอ ผู้กำกับทุกแห่ง ,สรรพากร,ปปท.,ปปง.และหน่วยงานที่รับผิดชอบการปราบปรามหนี้นอกระบบ เพื่อรับทราบถึงขั้นตอนการดำเนินงาน และแนวทางการดำเนินงานตามที่รัฐบาลกำหนด โดยมี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

นายไกรสร กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.เป็นต้นไปการปราบปรามหนี้นอกระบบ ทั้ง 26 อำเภอของจังหวัดขอนแก่นจะเข้มข้นมากขึ้น โดยขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ทุกจังหวัดขานรับนโยบายรัฐบาล และจัดตั้งศูนย์ปราบปรามหนี้นอกระบบขึ้นทันที โดยขณะนี้ขอนแก่นได้จัดตั้งศูนย์ฯเรียบร้อยแล้ว และสั่งการให้ทั้ง 26 อำเภอดำเนินการทันที ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.เป็นต้นไป ลูกหนี้นอกระบบขอให้มาขึ้นทะเบียนที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ เพื่อเข้ารับการช่วยเหลือตามระเบียบที่กำหนด

“ขอนแก่นจะเปิดให้ลงทะเบียนในระบบวันที่ 1 ธ.ค. ผ่านทางเว็ปไซต์และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ และ จังหวัด โดยตามกฎหมาย ดอกเบี้ยจะต้องไม่เกินร้อยละ 15 ยกตัวอย่างหนี้นอกระบบเมื่อสมัยดำรงตำแหน่งนายอำเภอกระนวน จะมีแก๊งชอปเปอร์ มาจากภาคกลาง ปล่อยเงินกู้นอกระบบ พากลุ่มวัยรุ่นที่ไม่มีงาน มารับจ้างทวงหนี้ ชาวบ้านเรียกว่าแก๊งชอปเปอร์ วิธีการจะไปเป็นคู่ คนนึงตบ คนนึงปลอบ เป็นวิธีการที่รุนแรง เก็บเงินดอกเบี้ยจนมีเงินซื้อทรัพย์สินหลายอย่าง ที่ดินหลายแปลง เพื่อฟอกเงิน”ผวจ.ขอนแก่นกล่าว

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า หนี้นอกระบบนั้น เป็นการกู้ยืมกันแบบไม่ได้ผ่านสถาบันการเงิน ไม่ได้ผ่านระบบกู้เงินของรัฐ เหมือนการยืมเงินเพื่อน แต่เงินกู้นอกระบบที่เราจะต้องดำเนินการนั้นเป็นเรื่องของอัตราดอกเบี้ย ต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ในเรื่องของหนี้นอกระบบ โดยเฉพาะดอกเบี้ยโหด จะต้องมีการจัดการแต่เราจะประสบปัญหาคือลูกหนี้ไม่กล้าแจ้งความ เมื่อเราไม่ได้รับความร่วมมือจากลูกหนี้ เราก็ไม่สามารถสืบสวนดำเนินการให้ความเป็นธรรมได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่เจอตลอด

“สำหรับเหตุการณ์ที อ.บ้านไผ่ แม้ไม่มีการแจ้งความ แต่เมื่อเหตุเกิดก็ต้องมีการดำเนินการตรวจสอบทันที โดยได้สั่งการและนำหมายค้นบ้านนายทุนเงินกู้ดังกล่าวที่ อ.โนนศิลาแล้ว อยู่ระหว่างการดำเนินการของตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ในส่วนการเปิดศูนย์ เพื่อช่วยเหลือและแก้ปัญหาเงินกู้นอกระบบ ต้องไม่ให้เกิดเหตุการข่มขู่ทวงหนี้ขึ้นในเขตพื้นที่จังหวัดขอนแก่นอีก ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล และวันที่ 1 ธ.ค.เป็นต้นไปหลังจากมีผู้มาลงทะเบียนแล้ว ก็จะเป็นข้อมูลประกอบที่สำคัญเพิ่มมากขึ้น “นายไกรสรกล่าว
ข่าว/ภาพ : จักรพันธ์ นาทันริ ผู้สื่อข่าวจังหวัดขอนแก่น